บมจ.ไทยออยล์ระบุราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังตลาดเชื่อ OPEC+ มีแนวโน้มปรับลดกำลังการผลิตเพิ่ม ท่ามกลางสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ
(+/-) ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ เผยว่าข้อตกลงทางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ อาจได้ข้อสรุปหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย. 63ซึ่งลดความหวังในการพื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า
(+) ในการประชุมวันที่ 5-6 ธ.ค. กลุ่ม OPEC+มีแนวโน้มที่จะลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ลดอยู่ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน และขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตที่ระดับเดิมต่อไปอีก 3 เดือน จนถึงเดือน มิ.ย. 63 นอกจากนี้ซาอุฯยังส่งสัญญาณในการปรับลดการผลิตลง เพื่อหวังกระตุ้นให้ตลาดน้ำมันปรับตัวดีขึ้นพร้อมสำหรับการ IPOของ Saudi Aramco ที่จะมีขึ้นในวันที่5 ธ.ค. นี้
(+) สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่า 3.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 445.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า2.7 ล้านบาร์เรล เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มกำลังการผลิต หลังกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นบางแห่งในภูมิภาค
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีอุปทานเพิ่มขึ้นจากการส่งออกของประเทศอินเดียและจีน พร้อมกับถูกกดันจากการกลับมาดำเนินการของโรงกลั่นในภูมิภาคหลังทำการบำรุงรักษาประจำปี ท่ามกลางอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นจาก IMO
ข่าวเด่น