สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -11.37 จุด หุ้นแบงก์กดดันตลาด ผิดหวังงบ 4Q19
SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1586-98 ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังงบ Q4 หลายตัว (SCB, TMB) ต่ำกว่าตลาดคาด และกังวล NPL ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากลับมาปรับขึ้นโดดเด่นหลังภาวะตลาดผันผวน ต่างชาติขายสุทธิ 222 ลบ. 8 วันติด และพลิก Short S50 Futures 27,475 สัญญา ยุติ Long หนัก 2 วัน ?
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลง รอดูงบแบงก์ใหญ่ที่เหลือ, จับตาประเด็นการเมือง
หุ้นโลกเมื่อวาน (20 ม.ค.) ซื้อขายเงียบเหงา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King ขณะที่หุ้นยุโรปอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากนลท.ใช้ความระมัดระวังก่อนการประชุม World Economic Forum 2020 โดย IMF มีกำหนดการจะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ศก.โลกใหม่จากปัจจุบันที่ประเมินโต +3.4% ในปีนี้ จากที่คาดโต +3.0% ในปีที่แล้ว มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์แบบซึมลง บรรยากาศการลงทุนพลิกเป็นลบอย่างกะทันหัน หลังงบแบงก์แย่กว่าคาดและกังวล NPL ที่เพิ่มขึ้น นำไปสู่การหั่นประมาณการและเป้าพื้นฐานลง ทำให้นลท.ระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นในช่วงการประกาศงบแบงก์ใหญ่ที่เหลืออีก 3 ตัววันนี้ คือ BBL, KBANK, KTB นอกจากนี้เชื่อว่าตลาดจะรอติดตามคำตัดสินของศาลรธน.กรณีพรรคอนาคตใหม่ล้มล้างการปกครองหรือไม่ รวมทั้งวุฒิสภาจะเริ่มพิจารณาร่างงบประมาณปี FY2020 วันนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวว่างบประมาณปี FY2020 ส่อแววเป็นโมฆะหลังมีการเสียบบัตรแทน สำหรับการประชุมครม.สัญจรที่นราธิวาส ลุ้นครม.อนุมัติโครงการลงทุนมูลค่า 1.79 แสนลบ. รวมทั้งอาจมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นศก.อื่นๆ อาจช่วยปลุกแรงซื้อคืนได้ในระยะสั้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, STEC, SEAFCO, PYLON, TASCO) แนวรับ 1585, 1580 แนวต้าน 1595 ?
กลยุทธ์การลงทุน : ใช้กรอบเทรดดิ้งสั้น 1575-1600 ขึ้นขาย-ลงซื้อ
แนะนำใช้กรอบเทรดดิ้งสั้น 1575-1600 ขึ้นขาย-ลงซื้อ, หาก SET ปิดต่ำกว่า 1575 แนะนำ Stop และเข้าสู่โหมด Wait & See / สำหรับการลงทุนเป็นรอบช่วง 3-4 เดือนนี้ ยังแนะนำหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว-ถือทนแกว่ง
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PYLON – หากครม.สัญจรอนุมัติโครงการลงทุน มองจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นกลุ่มรับเหมา, ราคาหุ้นที่ร่วง 2 วันติดเกือบ 4% เป็นจังหวะเข้าลงทุน, คาดกำไร 4Q19F ที่ 84 ลบ. +39% YoY และ +77% QoQ จากการรับรู้รายได้งานศูนย์สิริกิติ์ ขณะที่คาดว่าจะจ่ายปันผลสำหรับปี 19F ที่ 0.25 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 4.8%, เป้าพื้นฐาน 8.1 บ. / หุ้นคาดได้ประโยชน์จากงบประมาณผ่านสภาฯ หุ้นรับเหมา – CK, STEC, SEAFCO, PYLON และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและศก. COMM – CPALL, BJC / BANK & FIN – BBL, KKP, SCB, AEONTS / PROP – AP, LH, SPALI / MEDIA - PLANB, MAJOR / HELTH – BDMS / หุ้นคาดงบดี - PLANB, PRM, PTTEP, PTG, SABINA, SPA, SUSCO, TFG, TVO หุ้นที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเก็งกำไรในภาวะภัยแล้ง – TSR, TTW, EASTW / หุ้นปันผลที่ควรมีติดพอร์ตรอบนี้ (Remaining Div. Yield > 3%) - BBL, KKP, NYT, PYLON, ROJNA, SPALI, SUSCO / หุ้นรับประโยชน์จากภาครัฐกระจายความมั่งคั่งสู่ตจว.-คนระดับล่าง – CPALL, BJC, AEONTS การท่องเที่ยว – AOT, CPALL, BJC / หุ้นรับอานิสงส์หากเครดิตปท.ปรับขึ้น เน้นสถาบันการเงินใหญ่ KBANK, SCB, KTC, MTC และหุ้นเกี่ยวข้องการลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) AP, INTUCH, IRPC, KKP, SUSCO, TVO, VNT
• หุ้นเด่นปีนี้ CPALL, BJC, AEONTS, PLANB, SCB, AOT, PTTEP, PTT, TOP, SPRC, SPALI, KKP ?
ปัจจัยติดตาม
20-21 ม.ค.
JP การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
20-22 ม.ค.
TH ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยในเดือน ธ.ค.
21 ม.ค.
TH, EU ส.ว.พิจารณาร่างงบประมาณปี FY20, ผลสำรวจภาวะธุรกิจ (ZEW) สหภาพยุโรปใน ม.ค.
21-24 ม.ค.
WORLD World Economic Forum 2020
22 ม.ค.
US ดัชนีชี้วัดกิจกรรมธุรกิจชิคาโก และยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ใน ธ.ค.
US ดัชนีราคาบ้าน (FHFA House Price Index) สหรัฐฯ ใน พ.ย.
ที่มา : Bloomberg, TISCO Research
ข่าวเด่น