ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทิสโก้ชี้ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ "ตลาดยังโดนกดดัน ความเสี่ยงเชิงลบเพิ่มขึ้น แนะรอดูสถานการณ์ก่อน"


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -45.40 จุด สถานการณ์ระบาดของไวรัสยังอันตราย

 
SET เปิดปรับตัวลดลงทันทีกว่า 20 จุดก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาต่อเนื่องหลุดแนวรับ และลงไปต่ำสุดที่ 1519 จุดก่อนที่จะกลับขึ้นมาปิดที่ 1524 จุด โดยหุ้นกลุ่มพลังงานและการท่องเที่ยวยังคงเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลดลงกดดันตลาด ในขณะที่หลายตลาดในภูมิภาคยังปิดทำการ ด้านยอดต่างชาติยังคงขายสุทธิ 2,733 ลบ. และ Short S50 Futures ต่อเป็นวันที่ 6 ที่ 6,443 สัญญา ?
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : มองตลาดยังโดนกดดันแต่ไม่เท่ากับเมื่อวาน
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (27 ม.ค.) ตลาดหุ้นในเอเซียหลายตลาดยังคงปิดทำการเนื่องจากอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในขณะที่ตลาดหุ้นโลกทั้งสหรัฐฯ และยุโรปกลับมาปรับตัวลดลงโดยถ้วนหน้า 1-2% จากความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ล่าสุดยอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทะลุ 2,700 คน และเริ่มพบผู้ติดเชื้อรายแรกในเยอรมนี ในขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาซื้อขายบริเวณต่ำกว่า 53 ดอลลาร์ หลังแนวโน้มการเดินทางระหว่างประเทศเริ่มชะลอตัวลง  มอง SET จะยังคงถูกกดดันจากสถานการณ์ของโรคระบาดที่กดดันทั้งราคาน้ำมัน, ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนที่เป็นกลุ่มหลักที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้การฟื้นตัวอาจล่าช้ากว่าที่คาดไว้เดิม แต่อย่างไรก็ตาม มองการปรับตัวลดลงน่าจะน้อยกว่าวันก่อนหลังตลาดเริ่มรับรู้ปัจจัยลบจากข่าวแล้ว ด้านของค่าเงินบาทปรับตัวลดลงแตะ 30.80 บาท/ดอลลาร์ เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด  แนวรับ 1510-20 แนวต้าน 1535-40  ?
 
กลยุทธ์การลงทุน : ความเสี่ยงเชิงลบเพิ่มขึ้น แนะนำให้รอดูสภานการณ์
 
SET ปรับตัวลดลงแรงกว่าที่เราคาดไว้ในวันก่อนหน้า ทำให้เรามองว่าความเสี่ยงของช่วงขาลงเริ่มมีเพิ่มขึ้น โดยหากหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,500 จุดมีโอกาสที่ดัชนีจะลงไปทดสอบแนวรับ 1,480 – 1,460 จุดตามลำดับ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นที่ตัดขาดทุนแล้วรอดูสถานการณ์ไปก่อน / สำหรับการลงทุนเป็นรอบ 3-4 เดือน แนะนำหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว-ถือทนแกว่งรอสถานการณ์ไวรัสคลี่คลาย แนะนำหุ้นกลุ่มที่มีเงินปันผลมั่นคง 
 
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick HANA – เรามองว่าผลประกอบการ 4Q19 – 1Q20 จะเพิ่มขึ้นหลังเข้าช่วงของการรีสต็อคสินค้าและยอดขายของ Semiconductor ที่ไม่เคยชะลอตัวลง 16 เดือนต่อเนื่อง ทำให้หนุนยอดขายในกลุ่มมือถือและ PC อีกทั้งค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากต้นปีเป็นปัจจัยบวกรวมถึงเป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง มองราคาเป้าหมายทางเทคนิคที่ 37.50 บาท / หุ้นคาดได้ประโยชน์จากงบประมาณผ่านสภาฯ หุ้นรับเหมา – CK, STEC, SEAFCO, PYLON และหุ้นอิงบริโภคและศก. COMM – CPALL, BJC / BANK & FIN – BBL, KKP, SCB, AEONTS / PROP – AP, LH, SPALI / MEDIA - PLANB, MAJOR / HELTH – BDMS / หุ้นคาดงบดี - PLANB, PRM, PTTEP, PTG, SABINA, SPA, SUSCO, TFG, TVO หุ้นที่มักถูกหยิบยกขึ้นมาเก็งกำไรในภาวะภัยแล้ง – TSR, TTW, EASTW / หุ้นปันผลที่ควรมีติดพอร์ตรอบนี้ (Remaining Div. Yield > 3%) - BBL, KKP, NYT, PYLON, ROJNA, SPALI, SUSCO / หุ้นรับประโยชน์จากภาครัฐกระจายความมั่งคั่งสู่ตจว.-คนระดับล่าง – CPALL, BJC, AEONTS การท่องเที่ยว – AOT, CPALL, BJC / หุ้นรับอานิสงส์หากเครดิตปท.ปรับขึ้น เน้นสถาบันการเงินใหญ่ KBANK, SCB, KTC, MTC และหุ้นเกี่ยวข้องการลงทุน – AMATA, ROJNA, WHA, EASTW 
 
หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) AP, INTUCH, IRPC, KKP, SUSCO, TVO, VNT
 
หุ้นเด่นปีนี้ CPALL, BJC, AEONTS, PLANB, SCB, AOT, PTTEP, PTT, TOP, SPRC, SPALI, KKP ?
 
ปัจจัยติดตาม

28 ม.ค.
 
US ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. (เบื้องต้น)
 
US ตัวเลขดัชนีราคาบ้าน (S&P/CaseShiller Price Index) ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ย.
 
US ตัวเลขดัชนีชี้วัดกิจกรรมภาคอุตสาหกรรม (Richmond Fed Manuf.) ของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค.
 
US ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conf. Board) ของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค.
 
28-29 ม.ค.
 
US การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
 

LastUpdate 28/01/2563 13:17:07 โดย : Admin

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:35 pm