ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (7 พ.ค.)
ราคาน้ำมันดิบปรับลง หลังตลาดยังกังวลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 พ.ค.63 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 23.99 -0.57
เบรนท์ 29.72 -1.25
ดูไบ 29.96 +0.85
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 พ.ค.63 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 29.61 +2.68
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 22.21 +3.67
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 30.95 +0.72
น้ำมันเตา (3.5% S) 24.71 +2.21
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์และเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลง หลังตลาดยังคงกังวลตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ยังปรับตัวสูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เผยเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 4.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 532.2 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
+/- กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรหรือที่เรียกว่ากลุ่มโอเปกพลัส ยังไม่สามารถปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบได้อย่างเต็มที่ หลังประเทศอิรัก ไนจีเรีย และแองโกลา ยังคงไม่ได้ให้ความร่วมมือ หลังกลุ่มโอเปกพลัส มีข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตกว่า 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 63 ที่ผ่านมา
+ ประเทศเยอรมัน อิตาลี สเปน ไนจีเรีย อินเดีย และบางรัฐในสหรัฐฯ เริ่มผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ปรับตัวลง ประกอบกับมีการออกมาตรการต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันจะเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น ในหลายประเทศทั่วโลก
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในประเทศไต้หวันและฟิลิปปินส์ปิดซ่อมบำรุงประจำปี ประกอบกับอุปสงค์น้ำมันเบนซินปรับตัวดีขึ้น ทั้งในยุโรปและอเมริกา จากการมีการขับขี่มากขึ้น หลังมีการผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคปรับตัวลดลงจากปรับลดกำลังการผลิตและปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นในภูมิภาค ท่ามกลางการเริ่มผ่อนปรนมาตรการปิดเมือง หลังอัตราการติดเชื้อปรับตัวลดลง
ข่าวเด่น