สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -20.65 จุด ตัวเลขศก.โลกแย่, เงินทุนตปท.ไหลออก
SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1252-77 ถูกกดดันจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ และตัวเลขศก.โลกที่แย่ลงต่อเนื่อง ทั้งตัวเลขคนว่างงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น และ PMI ภาคการผลิต-ภาคบริการทั่วโลกหดตัวมากขึ้น ต่างชาติขายสุทธิ 2.0 พันลบ. 4 วันติด และ Short S50 Futures 6,135 สัญญา 4 วันติด ?
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นเด้งสั้นๆ ตามบรรยากาศบวกหุ้นโลก, คลายล็อกดาวน์
หุ้นโลกเมื่อวาน (7 พ.ค.) ปรับขึ้น ขานรับการส่งออกจีน เม.ย. ออกมาดี +3.5% สวนทางกับตลาดคาดที่ -11% และจำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอตัวลง โดย +3.17 ล้านคน vs สัปดาห์ก่อนหน้าที่ +3.85 ล้านคน นอกจากนี้สหภาพยุโรปวางแผนทยอยคลายล็อกดาวน์เพิ่มเติม ช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ด้านผลการประชุม BOE คงดบ.ที่ 0.1% ตามคาด คงวงเงิน QE ที่ 6.45 แสนล้านปอนด์ แต่พร้อมเพิ่มวงเงินหากมีความจำเป็น มอง SET มีโอกาสรีบาวด์ช่วงสั้นหลังร่วง 2 วันติดรวมกว่า 40 จุด คาดจะได้อานิสงส์บรรยากาศเชิงบวกจากหุ้นตปท.ที่ยังให้น้ำหนักกับการทยอยเปิดศก. สำหรับไทย ศบค.เตรียมผ่อนปรนระยะ 2 เปิดห้างฯ 17 พ.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อแนวโน้มศก.และกำไรบจ.เริ่มฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง สำหรับการประกาศงบเมื่อวานนี้ออกมาคละเคล้า ดีกว่าตลาดคาด – MTC, GPSC / ตามตลาดคาด – SCCC / แย่กว่าตลาดคาด – ADVANC, IRPC, LPN อย่างไรก็ดี ยังคงมุมมอง SET มี Upside จำกัด จากการประเมินมูลค่าหุ้นที่เริ่มตึงตัว คิดเป็น 12m Fwd. PER ที่ 16x ซึ่งเข้าใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.6x ประกอบกับเราเชื่อว่าตลาดน่าจะรอติดตามพัฒนาการทางการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่จะมีการหารือในช่วงสัปดาห์หน้า แนวรับ 1240+/-, 1230 แนวต้าน 1265-70 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะเข้าสู่โหมด Wait&See, รีบาวด์เป็นจังหวะขายลดพอร์ต
SET เมื่อวานปิดต่ำกว่า 1260 ซึ่งเป็นเกณฑ์ Stop ของการเทรดดิ้งสั้น แนะเข้าสู่โหมด Wait&See, หาก SET รีบาวด์มองเป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่ม รอจังหวะซื้อคืนทำรอบใหม่ที่ SET บริเวณ 1230 หรือต่ำกว่า
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CBG – คาดกำไร 1Q20F อยู่ที่ 724 ลบ. เติบโต 73% YoY จากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นหลังมีกำลังการผลิตกระป๋องใหม่และยอดขายเครื่องดื่มพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำในปีที่แล้ว แต่ลดลง 10% QoQ จากภาวะศก.ที่ชะลอตัว, เรายังคงประมาณการกำไรปี 20-21F ที่คาดว่าจะโต 23% และ 14% ตามลำดับ จากการขยายตัวของตลาดส่งออกในกลุ่ม CLMV, การประหยัดต่อขนาดจากกำลังการผลิตขวดและกระป๋องที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Functional Drink ได้แก่ C+Lock, เป้าพื้นฐาน 83.5 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. ชอบ CPALL, BJC, HMPRO, CPN, BTS, BEM / หุ้นคาดงบจะออกมาดี – BCH, CPF, EA, MEGA, PRM, PYLON, RBF, SMPC, STA, TVO, VNT / หุ้นที่มีโอกาสเข้า MSCI รอบนี้ (ประกาศ 12 พ.ค.) – AWC, KTC, TOA ออก BANPU / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นบลูชิพที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF พิเศษ เด่น AOT, BAM, BDMS, BTS, CPALL, KBANK, PTT, SCC, VGI / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
•หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC
ข่าวเด่น