สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +21.28 จุด การค้าโลกมีสัญญาณบวก, เล็งเปิดศก.เพิ่ม
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1276-93 ขานรับข่าวผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ-จีน เห็นตรงกันที่จะส่งเสริมบรรยากาศให้มีการปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเฟสแรก และหลายปท.ทั่วโลกทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติม ต่างชาติขายสุทธิ 1.36 พันลบ. 6 วันติด แต่ Long S50 Futures เล็กน้อย 592 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-พักฐาน ผู้ติดเชื้อฯ ในตปท.เพิ่มขึ้นหลังคลายล็อก
หุ้นโลกเมื่อวาน (11 พ.ค.) ส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเล็กน้อย จากแรงขายล็อกกำไร หลังจำนวนผู้ติดเชื้อฯ ของหลายปท.ที่ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ อาทิ เกาหลีใต้ และเยอรมัน เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 60 เซนต์ หรือ -2.4% ปิดที่ 24.14 $/บาร์เรล ห่วงการแพร่ระบาดระลอกใหม่จะกระทบอุปสงค์และการฟื้นตัวทางศก. มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-พักฐาน หลังขึ้นเร็วเข้าใกล้ระดับ 1300 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในสิ้นเดือนที่แล้ว และเป็นระดับการประเมินมูลค่าหุ้นค่อนข้างตึงตัว คิดเป็น 12m Fwd. PER ที่ประมาณ 16x เข้าใกล้ค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.6x อาจต้องระวังแกว่งตัวจากสถานการณ์แพร่ระบาดในตปท.ระลอกใหม่หลังคลายล็อกดาวน์ แต่สำหรับไทยยังควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ดี นำไปสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 ขณะที่บจ.ทยอยประกาศงบโค้งสุดท้ายในสัปดาห์นี้ จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นเฉพาะตัว วันนี้แนะนำติดตาม ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ และจีน, การประกาศทบทวนดัชนีของ MSCI งวดครึ่งปี และการประชุมครม. อาจหารือการกระตุ้นศก.เพิ่มเติม และแนวทางการช่วย THAI แนวรับ 1278, 1270+/- แนวต้าน 1294, 1300-1302
กลยุทธ์การลงทุน : แนะอยู่ในโหมด Wait&See, รีบาวด์เป็นจังหวะขายลดพอร์ต
ตราบใดที่ SET ยังเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1290 แนะอยู่ในโหมด Wait&See, หาก SET รีบาวด์มองเป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่ม อย่างไรก็ดีหาก SET มีทิศทางดีกว่าคาด ปิดเหนือระดับ 1290 ได้ มองเป็นจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ โดยใช้ SET ที่ปิดต่ำกว่า 1270 เป็นจุด Stop Loss
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick SMPC – รายงานกำไรสุทธิ 146 ลบ.ใน 1Q20 +72% YoY, +87% QoQ ดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 96 ลบ. หลัก ๆ มาจากรายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งตามคาด และมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น กว่าที่คาด จากต้นทุนราคาเหล็กที่ลดลงและเงินบาทอ่อนค่า, ถึงแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้น 26% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ยังซื้อขายที่ PER ประมาณ 9x และมี Div. Yield สูงกว่า 6% ต่อปี, ยังแนะนำ “ซื้อ” ปรับเป้าพื้นฐานขึ้นเป็น 9.1 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. ชอบ CPALL, BJC, HMPRO, CPN, BTS, BEM / หุ้นคาดงบจะออกมาดี – BCH, CPF, EA, MEGA, PRM, PYLON, RBF, SMPC, STA, TVO, VNT / หุ้นที่มีโอกาสเข้า MSCI รอบนี้ (ประกาศ 12 พ.ค.) – AWC, KTC, TOA ออก BANPU / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นบลูชิพที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF พิเศษ เด่น AOT, BAM, BDMS, BTS, CPALL, KBANK, PTT, SCC, VGI / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
•หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC
ข่าวเด่น