ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแย่ลงกว่าที่คาดอย่างมากทั้งข้อมูลยอดค้าปลีกและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ทำให้นักวิเคราะห์โดยภาพรวมมองเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯบางส่วนแย่กว่ายุค Great Depression ด้วยซ้ำ ขณะที่มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบการเงินอย่างมากจากภาครัฐและธนาคารกลาง ในส่วนของ SPDR มีการเข้าซื้อเพิ่ม 9.06 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,113.78 ตัน ดัชนีดอลลาร์ยังคงทรงตัว ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์วันศุกร์ปิดปรับขึ้นเล็กน้อย ในลักษณะทรงตัวกรอบแคบ ขณะที่คืนนี้ไม่มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญใดๆ
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวสูงสุดทำสูงสุดใหม่รอบ 7 ปีครึ่งโดยราคาผ่านสูงสุดเดิมเมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย. บริเวณ 1,747 เหรียญโดยประมาณ มาทดสอบ 1,760 เหรียญ ขณะที่ Gold Futures เองก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งสภาวะโดยองค์รวมของราคาทองคำเป็นขาขึ้น และวันนี้คาดว่าราคาจะมีแนวรับที่ 1,747 เหรียญ และแนวต้าน 1,780 เหรียญ และแนวต้านสำคัญที่ 1,800 เหรียญ สำหรับ Gold Online Futures และ Gold Comex คาดจะมีกรอบแนวรับ 1,750 เหรียญ และแนวต้าน 1,785 เหรียญเช่นเดียวกัน สำหรับราคาทองคำไทยคาดจะปรับขึ้นประมาณ 250 บาท/บาททองคำ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เก็งกำไรกรอบขาขึ้น แนะวาง Stop Loss หากต่ำกว่า 1,747 เหรียญ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ แนะมีจุด Stop Loss ต่ำกว่าแนวรับ
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
ไม่แนะนำให้ถือสถานะในเวลานี้
กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading
เก็งกำไรกรอบขาขึ้นระยะสั้นๆตามการแกว่งตัวของตลาด โดยราคาทองคำจะมีเป้าหมายระยะยาวบริเวณ 1,800 เหรียญ เน้นเล่นสั้นและมี Stop Loss หากราคาต่ำกว่า 1,747 เหรียญ
Gold Futures M20 จะมีแนวรับที่ระดับ 26,500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,750 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น