สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -1.51 จุด ชน 1330 ไม่ผ่าน เผชิญแรงขายทำกำไร
SET แกว่งผันผวนในกรอบ 1315-33 มูลค่าซื้อขายหนาแน่น 7 หมื่นลบ. โดยปรับขึ้นก่อนในภาคเช้าตามทิศทางหุ้นโลกและราคาน้ำมัน แต่ภาคบ่ายเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น กังวลระดับการประเมินมูลค่าหุ้นตึงตัว และรอปัจจัยชี้นำใหม่ ต่างชาติขายสุทธิ 3.35 พันลบ. 14 วันติด และพลิก Short S50 Futures เล็กน้อย 896 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงลบเล็กน้อย จับตาสถานการณ์ตึงเครียด US-CH
หุ้นโลกเมื่อวาน (21 พ.ค.) อ่อนตัวลง นลท.วิตกกังวลความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจนำไปสู่การทำสงครามการค้ารอบใหม่ หลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกม. ซึ่งอาจทำให้บจ.สัญชาติจีนถูกขับออกจากตลาดหุ้นได้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ไต่ขึ้น 6 วันติด บวกอีก 43 เซนต์ หรือ +1.3% ปิดสูงสุดใหม่ในรอบ 10 สัปดาห์ อานิสงส์หลายปท.ทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หนุนแนวโน้มอุปสงค์ฟื้นตัว ผสานกับอุปทานน้ำมันที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อิงทางลบเล็กน้อย นลท.ระมัดระวังการลงทุนจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ล่าสุด ปธน.ทรัมป์มีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อจีนที่กำลังเตรียมผลักดันกม.ความมั่นคง ห้ามฮ่องกงปลุกระดมการแยกตัว ประกอบกับระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยในปัจจุบันค่อนข้างตึงตัว วันนี้แนะนำติดตามตัวเลขการส่งออกไทยใน เม.ย. ตลาดคาด -3% YoY และการประชุมประจําปีของสภาปชช.แห่งชาติจีน (NPC) เพื่อกำหนดเป้าหมายและนโยบายทางศก.ของปี 2020 เราคาดว่ารัฐบาลจีนจะส่งสัญญาณกระตุ้นศก.เพิ่มเติม รวมทั้งท่าทีของปธน.สีจิ้นผิงต่อสถานการณ์ COVID-19 และการค้าโลก แนวรับ 1315, 1305 แนวต้าน 1330-35 อนึ่ง คาดหุ้น NEX, THAI จะติด Cash Balance เย็นนี้ / META, META-W4 ติด Cash Balance วันนี้วันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้นในกรอบ 1280-1330 หาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว
ด้วยเรามองระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยตึงตัว ช่วงนี้จึงแนะนำแค่เทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย ระวัง SET แกว่งบริเวณ 1330 และใช้ Trailing Stop ที่ SET 1280, หาก SET ถอยปิดต่ำกว่า 1300 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick KKP – ได้รับผลกระทบน้อยจากการลดดบ.เนื่องจาก KKP มีสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อที่คิดอัตราดบ.คงที่สูง ขณะที่เรามองแนวโน้มผลประกอบการคาดว่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการทยอยเปิดศก.ใน Q2, เป็นหนึ่งในหุ้นที่เราชอบสุดในกลุ่มแบงก์ PER ปีนี้ 7.7x Div. Yield 7.8%, เป้าพื้นฐาน 56 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. และราคายังมี upside ชอบ CPALL, HMPRO, BEM, BTS / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไร-เป้าราคาหุ้นขึ้น – CBG, COTTO, CPF, GLOBAL, LPH, PYLON, SMPC, SYNEX / หุ้นที่แนวโน้มกำไร Q2 ดีขึ้นจาก Q1 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำ ชอบ AP, PRM, PTTEP, TASCO, TWPC / หุ้นเก็งเข้า SET50 ชอบ TTW / SET100 ชอบ ACE, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า MSCI Global Standard 3 ตัว – AWC, BAM, KTC ออก 1 ตัว BANPU / MSCI Small Cap เข้า 1 ตัว – BANPU ออก 16 ตัว – ANAN, BEAUTY, BEC, ERW, GGC, ITD, LPN, PLAT, PSL, GLOBAL, SVI, TTA, U, UNIQ, UV, WORK / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
•หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC
ข่าวเด่น