สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.60 จุด ขายล็อกกำไร หลังปะทะ 1360+/- ไม่ผ่าน
SET เปิดสูง-ปิดต่ำ โดยผันผวนในกรอบ 1337-58 เทรดหนาแน่น 8.5 หมื่นลบ. ถูกกดดันจากแรงขายล็อกกำไรระยะสั้น จากสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนมากขึ้น แต่มีแรงซื้อหุ้นแบงก์ช่วยพยุง หลังระดับการประเมินมูลค่าหุ้นถูกและราคายังปรับตัวขึ้นน้อย ต่างชาติขายสุทธิ 763 ลบ. 19 วันติด และพลิก Short S50 Futures 1,069 สัญญา ?
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ US-CH ตึงเครียด, MSCI Rebalancing เป็นลบ
หุ้นโลกเมื่อวาน (28 พ.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปรับขึ้น 4 วันติด ขานรับการจัดตั้งกองทุนเพื่อกระตุ้นศก.ยูโรโซนวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร และคาดว่า ECB จะขยายวงเงิน QE อีกราว 5 แสนล้านยูโรในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่ดัชนี DJ สหรัฐฯ พลิกร่วง 0.6% หลังจากที่ระหว่างวันขึ้นไปเกือบ 1% วิตกสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังปธน.ทรัมป์เตรียมแถลงนโยบายใหม่ในวันศุกร์นี้ เพื่อตอบโต้จีนหลังบังคับใช้กม.คุมความมั่นคงในฮ่องกงฉบับใหม่ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ ถูกกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน และโอกาสเกิดความผันผวน โดยเฉพาะในช่วงท้ายตลาดจากการปรับน้ำหนักตามดัชนี MSCI ซึ่งหุ้นไทยถูกลดน้ำหนักลงจาก 2.39% เป็น 2.36% หรือคิดเป็นเม็ดเงินไหลออกราว 56 ล้านดอลลาร์ฯ นอกจากนี้กรมสรรพสามิตปฏิเสธการลดภาษีรถยนต์ 50% ระบุไม่ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเป็นการแทรกแซงกลไกตลาด อาจกระตุ้นแรงขายหุ้นแบงก์-ลีสซิ่งที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวาน แนวรับ 1330+/- แนวต้าน 1350, 1358-60 อนึ่ง คาด BEAUTY ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นเข้าใกล้ 1360 เน้นขายทำรอบเทรดดิ้งสั้น-รอย่อซื้อคืน
แนะใช้กรอบ 1300-1360 ในการเทรดดิ้งสั้น เน้นการตั้งรับ, หาก SET ขึ้นเข้าใกล้ 1360 มองเป็นจังหวะขายล็อกกำไรทำรอบ, แต่หาก SET ปิดต่ำกว่า 1320 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี และ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1300
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RATCH – ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน, การหดตัวรุนแรงของศก.จากผลกระทบ COVID-19 และภาวะดบ.ต่ำ เรามองหุ้น RATCH เป็นทางเลือกที่น่าสนใจต่อการลงทุน จากรายได้ธุรกิจไฟฟ้ามีความมั่นคงสูงและจ่ายเงินปันผลดีสม่ำเสมอ Div. Yield ประมาณ 4% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 71 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐเล็งกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, CENTEL, BJC, CPALL / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. + ราคายังมี upside ชอบ CPALL, HMPRO, BEM, BTS / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไร-เป้าราคาหุ้นขึ้น – CBG, COTTO, CPF, GLOBAL, LPH, PYLON, SMPC, SYNEX / หุ้นที่แนวโน้มกำไร Q2 ดีขึ้นจาก Q1 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำ ชอบ AP, PRM, PTTEP, TASCO, TWPC / หุ้นเก็งเข้า SET50 ชอบ TTW / SET100 ชอบ ACE, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า MSCI Global Standard 3 ตัว (ราคาปิด 29 พ.ค.) – AWC, BAM, KTC ออก 1 ตัว BANPU / Small Cap เข้า 1 ตัว – BANPU ออก 16 ตัว – ANAN, BEAUTY, BEC, ERW, GGC, ITD, LPN, PLAT, PSL, GLOBAL, SVI, TTA, U, UNIQ, UV, WORK / หุ้นเข้า FTSE Small Cap (ราคาปิด 19 มิ.ย.) – BAM / Micro Cap – BKER, RBF, SHR, SFLEX / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC
ข่าวเด่น