สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +9.52 จุด คลายวิตกข้อพิพาท US-CH, ฮ่องกงไร้รุนแรง
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1348-62 ตามทิศทางหุ้นภูมิภาคที่ปรับขึ้น คลายกังวลข้อพิพาทสหรัฐฯ-จีน หลังปธน.ทรัมป์ประกาศตัดสิทธิประโยชน์ของฮ่องกง แต่ไม่พาดพิงข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน และการประท้วงในฮ่องกงไร้เหตุรุนแรง ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.39 พันลบ. 2 วันติด แต่พลิก Short S50 Futures 2,440 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อัพ แนวโน้มศก.ฟื้นตัวหลังทยอยคลายล็อกดาวน์
หุ้นโลกเมื่อวาน (1 มิ.ย.) ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า ทั้งหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป นลท.ในตลาดยังให้น้ำหนักกับการทยอยเปิดศก.ของหลายปท.ทั่วโลก คาดหวังแนวโน้มศก.ฟื้นตัวได้เร็วในช่วงครึ่งปีหลัง สอดคล้องกับตัวเลข ISM ภาคผลิตสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นจาก 41.5 จุดใน เม.ย. มาอยู่ที่ 43.1 จุดใน พ.ค. ขณะที่ตัวเลข Caixin PMI ภาคผลิตจีนใน พ.ค. ปรับขึ้นสู่ภาวะขยายตัวที่ 50.7 จุด จาก 49.4 จุดในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ตลาดจับตาสถานการณ์จลาจลในสหรัฐฯ รวมทั้งข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังจีนสั่งระงับนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลือง เพื่อตอบโต้ปธน.ทรัมป์ที่แทรกแซงกิจการภายใน มอง SET มีแนวโน้มแกว่งแบบไซด์เวย์อัพ คาดหวังศก.ฟื้นตัวหลังทยอยคลายล็อกดาวน์ และสัญญาณบวกจากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหลังซื้อสุทธิ 2 วันติด นอกจากนี้จากการตรวจสอบเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้เป็นบวกเกือบทุกตลาดเช่นกัน อย่างไรก็ดี แนะนำจับตาการเมืองทั้งในและตปท.ใกล้ชิด การลาออกของกรรมการบริหารพรรคพปชร. 18 ท่าน สะท้อนปัญหาภายในพรรค อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาลในอนาคต ขณะที่การเมืองในตปท.ยังให้น้ำหนักกับข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ-จีน หากมีพัฒนาการในทางลบอาจเป็นอุปสรรคต่อศก.ฟื้นตัวทางศก. ส่วนเหตุจลาจลในสหรัฐฯ มองจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในไม่ช้านี้ หลังปธน.ทรัมป์ส่งกองกำลังทหารติดอาวุธเพื่อควบคุมเหตุการณ์แล้ว วันนี้แนะติดตามการประชุมครม. และตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหภาพยุโรป แนวรับ 1342-45, 1335 แนวต้าน 1362, 1370
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นเข้าใกล้ 1360 เน้นขายทำรอบเทรดดิ้งสั้น-รอย่อซื้อคืน
แนะใช้กรอบ 1300-1360 ในการเทรดดิ้งสั้น เน้นการตั้งรับ, หาก SET ขึ้นเข้าใกล้ 1360 มองเป็นจังหวะขายล็อกกำไรทำรอบ, แต่หาก SET ปิดต่ำกว่า 1320 จะเป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี และ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1300
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PTTGC – เราเชื่อว่าตลาด PX น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำไปแล้ว ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดความต้องการ PX และ BZ จะปรับตัวดีขึ้นจากกำลังการผลิตใหม่ของ PTA และ SM ในภูมิภาคนี้ (ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย) เพิ่มขึ้นมากกว่า เราปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” โดยให้เป้าพื้นฐานใหม่อยู่ที่ 55 บ. จากเดิม 39 บ. อิงจาก PBV ที่ 0.8x ซึ่งสอดคล้องกับ ROE และเป็นระดับก่อนการแพร่ระบาด COVID-19 แต่ยังคงต่ำกว่า PBV เฉลี่ยระยะยาวที่ 1.1x / หุ้นรับอานิสงส์รัฐเล็งกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, CENTEL, BJC, CPALL / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. + ราคายังมี upside ชอบ CPALL, HMPRO, BEM, BTS / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไร-เป้าราคาหุ้นขึ้น – CBG, COTTO, CPF, GLOBAL, LPH, PYLON, SMPC, SYNEX / หุ้นที่แนวโน้มกำไร Q2 ดีขึ้นจาก Q1 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำ ชอบ AP, PRM, PTTEP, TASCO, TWPC / หุ้นเก็งเข้า SET50 ชอบ TTW, BPP / SET100 ชอบ ACE, DOHOME, RBF, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า FTSE Small Cap (ใช้ราคาปิด 19 มิ.ย.) – BAM / Micro Cap – BKER, RBF, SHR, SFLEX / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AMATA, BCH, CK, KBANK, SCCC, TVO
ข่าวเด่น