สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +2.96 จุด เผชิญแรงขายทำกำไรมากขึ้น-วอลุ่มแสนล้าน
SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1429-54 ขานรับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสวนทางที่คาด ยิ่งเชื่อมั่นแนวโน้มศก.โลกฟื้นตัวจากการทยอยคลายล็อกดาวน์ของหลายๆ ปท. แต่ด้วย Valuations ที่ตึงตัวจึงกระตุ้นแรงขายทำกำไรช่วงหุ้นปรับขึ้น ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 788 ลบ. ยุติซื้อ 5 วันติด และ Short S50 Futures 7,205 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ผันผวนจากการประเมินมูลค่าหุ้นที่ตึงตัว, เงินตปท.เริ่มแผ่ว
หุ้นโลกเมื่อวาน (8 มิ.ย.) ปิด +/- กระจัดกระจาย โดยหุ้นยุโรปปรับลงเล็กน้อยจากแรงขายล็อกกำไร โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและเฮลธ์แคร์ หลังตลาดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นกว่า 1% โดยดัชนีหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หรือ NASDAQ ปิดเหนือระดับ 9,900 จุด เป็นจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากความหวังศก.ฟื้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI พลิกร่วงกว่า 3% วิตกซาอุฯ ประกาศเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือน ก.ค. เพื่อให้สอดคล้องกับโควตาการผลิตน้ำมันของปท.ตนเอง มอง SET มีแนวโน้มผันผวน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นเข้าสู่สัปดาห์ที่ 10 ในรอบ 11 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นตึงตัวมาก คิดเป็น Fwd. PER ปี 21F ที่ 17.1 เท่า vs ค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ประมาณ 15-16 เท่า ขณะที่เงินทุนตปท.ไหลเข้าหุ้นภูมิภาคเริ่มแผ่ว โดยวานนี้ไหลเข้าเฉพาะตลาดไต้หวัน (+$304m) และเกาหลีใต้ (+$19m) แต่ไหลออกจาก TIP Market รวม -$31m นอกจากนี้เครื่องมือทางเทคนิคบ่งชี้ภาวะ “Overbought” (RSI > 70) วันนี้แนะติดตามการประชุมครม.อาจพิจารณามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปท. และตัวเลขสุดท้าย GDP SA Q1 สหภาพยุโรป ตลาดคาด -3.2% YoY และ -3.8% QoQ แนวรับ 1430+/-, 1420 แนวต้าน 1445, 1454
กลยุทธ์การลงทุน : ทยอยแบ่งขายช่วงหุ้นปรับขึ้น, ลดวงเงินการเทรดดิ้งสั้นลง
SET เมื่อวานชนเป้า 1450 เริ่มมีอาการอ่อนตัว ยังแนะนำทยอยแบ่งขายลดพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่มขึ้น และจำกัดวงเงินการเทรดดิ้งสั้นลง เนื่องจากระดับการประเมินมูลค่าหุ้นที่ตึงตัวมาก และใช้ Trailing Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1390
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PYLON – แม้แนวโน้มกำไร 2Q20F จะอ่อนตัวลงเทียบ QoQ แต่คาดจะทรงตัว YoY และเรามองแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังต่อเนื่องจนถึงปีหน้า คาดจะฟื้นตัวตามงานก่อสร้างที่เลื่อนมาจากครึ่งปีแรก และการเปิดงานประมูลใหม่ๆ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน หลังสถานการณ์เริ่มดีขึ้น, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และการประเมินมูลค่าหุ้นไม่แพง โดยคิดเป็น PER ปีนี้และปีหน้าเพียง 11.8 เท่า และ 10.5 เท่า ตามลำดับ, ปันผลดี 6% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 7.8 บ. / หุ้นที่คาดเป็นเป้าซื้อคืนต่างชาติ – ADVANC, PTTGC, SCB, SCC, BDMS, CPALL, KBANK, CK, STEC / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐเล็งกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, CENTEL, BJC, CPALL / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. + ราคายังมี upside ชอบ CPALL, HMPRO, BEM, BTS / หุ้นแนวโน้มกำไร Q2 ดีขึ้นจาก Q1 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำ ชอบ AP, PRM, PTTEP, TASCO, TWPC / หุ้นเก็งเข้า SET50 ชอบ TTW, BPP / SET100 ชอบ ACE, DOHOME, RBF, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า FTSE SET Large Cap – CRC, DIF ออก – LH, MINT / เข้า Mid Cap – ACE, BAM, IMPACT, LH, MINT, TQM ออก – DIF / หุ้นเข้า FTSE Small Cap (ใช้ราคาปิด 19 มิ.ย.) – BAM / Micro Cap – BKER, RBF, SHR, SFLEX / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AMATA, BCH, CK, KBANK, SCCC, TVO
ข่าวเด่น