ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +25.14 จุด เด้งแรง FED ส่งสัญญาณกระตุ้นศก.


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +25.14 จุด เด้งแรง FED ส่งสัญญาณกระตุ้นศก.เพิ่ม

SET ภาคเช้าเปิดกระโดดทันทีกว่า 30 จุด และแกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบจำกัด 1362-76 ขานรับ FED ขยายขอบเขตการซื้อตราสารหนี้ของภาคเอกชน ซึ่งรวมถึงหุ้นกู้ในตลาดรอง (Secondary Market) ด้วย ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิเล็กน้อย 423 ลบ. ยุติขาย 3 วันติด แต่ยังคง Short S50 Futures 9,109 สัญญา 4 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ขยับขึ้น ยอดค้าปลีก US ดีเกินคาด, ธ.กลางตปท.อัดเงินเพิ่ม
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (16 มิ.ย.) พุ่งขึ้นแรง ขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน พ.ค. +17.7% MoM ดีเกินคาด หลังทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากข่าวทีมงานของปธน.ทรัมป์กำลังเตรียมใช้จ่ายเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านการขนส่งและโทรคมนาคม ด้านราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้นราว 3% โดย Brent ปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ 40$/บาร์เรล ขานรับ IEA เพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันขึ้น และ OPEC ยืนยันลดกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง  มอง SET มีโอกาสขยับขึ้นต่อ จากมาตรการกระตุ้นศก.ที่ทยอยออกมาทั้งในและตปท. เมื่อวานครม.เห็นชอบหลักการ 3 มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว (กำลังใจ-เราไปเที่ยวด้วยกัน-เที่ยวปันสุข) ขณะที่ FED และ BOJ เพิ่มการอัดฉีดเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ภาคเอกชน อย่างไรก็ดี ความต่อเนื่องของการฟื้นตัวทางศก.ยังเป็นไปอย่างช้าๆ เนื่องจากอุปสงค์อ่อนแอจากอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับสูง และสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอก 2 ยังน่าเป็นห่วง เมื่อวานมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วโลกทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.42 แสนคน สอดคล้องกับถ้อยแถลงของปธ.FED ต่อวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังมีมุมมองศก.ที่ระมัดระวัง และ IMF เตือนศก.มีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ครั้งก่อน ยังสร้างความผันผวนต่อไป แนวรับ 1350-55 แนวต้าน 1380+/-, 1390 
 
กลยุทธ์การลงทุน : Wait&See เป็นหลัก, การรีบาวด์เป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต
 
มอง SET รีบาวด์เป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดพักฐาน, SET จะกลับมาดูดีขึ้น อย่างน้อยต้องขึ้นมายืนแกว่งบริเวณ 1380-90 ให้ได้ก่อน / ผู้ความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
 
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PTG – ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” มองแนวโน้มกำไรผ่านจุดต่ำไปแล้วใน Q1 ค่อย ๆ ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ทำให้การสัญจรและปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราค่าการตลาดปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.8-1.9 บ./ลิตร จาก 1.6 บ./ลิตรใน 1Q20, ปรับประมาณการกำไรปี 20-22F ขึ้น 15% และปรับเป้าพื้นฐานใหม่เป็น 16.8 บ. / หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง ชอบ EGCO, SYNEX, TVO / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL / หุ้นเก็ง Window Dressing - BGRIM, GULF, KTC, OSP, PRM, RATCH, SPALI, TTW / หุ้นเข้า SET50 ชอบ TTW, BPP / SET100 ชอบ ACE, DOHOME, RBF, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า FTSE SET Large Cap – CRC, DIF ออก – LH, MINT / เข้า Mid Cap – ACE, BAM, IMPACT, LH, MINT, TQM ออก – DIF / หุ้นเข้า FTSE Small Cap (ใช้ราคาปิด 19 มิ.ย.) – BAM / Micro Cap – BKER, RBF, SHR, SFLEX / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BBL, KKP, BAM, AEONTS, SCC, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC 
 
•หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AMATA, BCH, CK, KBANK, SCCC, TVO 
 
 

บันทึกโดย : acnewsวันที่ : 17 มิ.ย. 2563 เวลา : 11:17:42

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:04 am