สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.20 จุด ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น, จับตาการแพร่ระบาด
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1358-77 ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น นลท.จับตาการแพร่ระบาด COVID-19 ของทั่วโลกที่มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 1.4 แสนคน 2 วันติด สร้างความกังวลต่อการฟื้นตัวทางศก.หลังทยอยคลายล็อกดาวน์ ต่างชาติขายสุทธิ 4.46 พันลบ. 2 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 8,832 สัญญา ยุติ Short 5 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์กรอบจำกัด, FTSE Rebalancing ใช้ราคาปิดวันนี้
หุ้นโลกเมื่อวาน (18 มิ.ย.) ปิดทรงตัวถึงอ่อนลงเล็กน้อย ดัชนี DJ ปรับลง 2 วันติด หลังจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรกรายสัปดาห์อยู่ที่ 1.5 ล้านคน มากกว่าตลาดคาดที่ 1.3 ล้านคน แต่ชะลอตัวเป็นสัปดาห์ที่ 11 ติดต่อกัน และจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้มีมากกว่า 12 รัฐของสหรัฐฯ รวมทั้งทั่วโลกที่มีผู้ติดเชื้อฯ เร่งตัวขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ปรับตัวขึ้นราว 2% จากคาดหวังสมาชิกกลุ่ม OPEC จะลดกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง ส่วนผลการประชุม BOE เพิ่มวงเงิน QE อีก 1 แสนล้านปอนด์ เป็น 7.45 แสนล้านปอนด์ และคงดบ.นโยบายที่ 0.1% ตามเดิม มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์กรอบจำกัด ให้น้ำหนักอิงทางแดนบวกเล็กน้อย จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นคาดจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี แต่ภาพโดยรวมตลาดยังขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น และยังระมัดระวังต่อสถานการณ์แพร่ระบาดฯ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่อาจทำให้แนวโน้มการฟื้นตัวทางศก.ช้าลง ไม่สนับสนุนราคาหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ FTSE Rebalancing จะใช้ราคาปิดวันนี้ อาจส่งผลให้มีความผันผวนเล็กน้อยในช่วงท้ายตลาด แนวรับ 1358, 1350 แนวต้าน 1380+/-, 1390 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : รอซื้อที่ 1340 ลงมา, การรีบาวด์เป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต
มอง SET รีบาวด์เป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงตลาดพักฐาน, SET จะกลับมาดูดีขึ้น อย่างน้อยต้องขึ้นมายืนแกว่งบริเวณ 1380-90 ให้ได้ก่อน / ผู้ความเสี่ยงได้สูง แนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CK – รฟม.จะเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกและสีม่วงใต้ในช่วงเดือน ก.ย. - ต.ค. และจะรู้ผลประมูลภายในสิ้นปีนี้ มองเป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมาโดยรวม, มองแนวโน้มกำไร CK ครึ่งปีหลังจะฟื้นตัว และ backlog ที่ 3.5 หมื่นลบ.ในปัจจุบัน คาดจะกลับมาเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ช่วยหนุนการเติบโตในปีหน้า, การประเมินมูลค่าหุ้นถูกมาก โดยการถือหุ้นใน BEM, CKP และ TTW ณ ราคาตลาดปัจจุบัน หักด้วยภาระหนี้สินสุทธิ จะมีมูลค่าสูงถึง 4.19 หมื่นลบ. หรือคิดเป็น 24.72 บ./หุ้น CK, เป้าพื้นฐาน 23.8 บ. / หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง ชอบ EGCO, SYNEX, TVO / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL / หุ้นเก็ง Window Dressing - BGRIM, GULF, KTC, OSP, PRM, RATCH, SPALI, TTW / หุ้นเข้า SET50 ชอบ TTW, BPP / SET100 ชอบ ACE, DOHOME, RBF, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า FTSE SET Large Cap – CRC, DIF ออก – LH, MINT / เข้า Mid Cap – ACE, BAM, IMPACT, LH, MINT, TQM ออก – DIF / หุ้นเข้า FTSE Small Cap (ใช้ราคาปิด 19 มิ.ย.) – BAM / Micro Cap – BKER, RBF, SHR, SFLEX / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BBL, KKP, BAM, AEONTS, SCC, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AMATA, BCH, CK, KBANK, SCCC, TVO
ข่าวเด่น