สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +4.25 จุด Sentiment หุ้นตปท.ดี, น้ำมัน WTI ทะลุ 40$
SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบแคบๆ 1351-61 ขานรับตัวเลขศก.สหรัฐฯ ฟื้นตัว และคาดหวังสภาคองเกรสจะอนุมัติแผนการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะลุระดับ 40$/bbl ต่างชาติขายสุทธิ 773 ลบ. 5 วันติด แต่พลิก Long S50 Futures 6,848 สัญญา ยุติ Short 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงแดนบวก ตัวเลขศก.ฟื้น, คลายวิตกข้อตกลงการค้าฯ
หุ้นโลกเมื่อวาน (23 มิ.ย.) ปรับขึ้นกันถ้วนหน้า นำโดยหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หนุนดัชนี NASDAQ ปิดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จาก (1) คาดหวังแผนกระตุ้นศก.เพิ่มเติมมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ของสหรัฐฯ จะผ่านสภาคองเกรสในช่วงเดือน ก.ค. (2) ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนยังคงอยู่ ไม่ได้ล้มเลิกอย่างที่เป็นข่าวสับสนในช่วงก่อนหน้านี้ และ (3) ตัวเลข PMI เบื้องต้นของภาคการผลิตและภาคบริการทั่วโลกในเดือน มิ.ย. ปรับตัวดีขึ้นหลังคลายล็อกดาวน์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงเกือบ 1% หลังขึ้น 3 วันติดมากกว่า 6% กังวลผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้น อาจฉุดศก.โลกและอุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวช้า ขณะที่ตลาดจับตาสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 แสนบาร์เรล มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ ให้น้ำหนักอิงแดนบวกเล็กน้อย จากตัวเลขศก.โลกที่เริ่มฟื้นตัว และการอัดเงินมหาศาลทั้งการคลังและการเงินเพื่อฟื้นฟูศก. อย่างไรก็ดี กรอบการฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยที่ตึงตัว, สถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ยังมีความไม่แน่นอนสูง และทิศทางเงินทุนตปท.พลิกไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคเป็นสัปดาห์ที่ 2 วันนี้แนะติดตามตัวเลขส่งออกของไทยในเดือน พ.ค. ตลาดคาด -5.7% vs +2.1% ในเดือนก่อนหน้า, การประชุม กนง. คาดจะคงดบ.ที่ 0.50% และปรับลดคาดการณ์เติบโตศก.ลงจากเดิมคาด -5.3% (เราคาด GDP ไทยปีนี้ -6.4%) เช่นเดียวกับ IMF ที่จะเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ศก.โลกเป็นหดตัวมากขึ้นจากเดิมคาด -3% แนวรับ 1347-48 แนวต้าน 1362, 1370
กลยุทธ์การลงทุน: รอซื้อที่ 1340 ลงมา, การรีบาวด์เป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต
ผู้ความเสี่ยงได้สูง แนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง แต่กลยุทธ์หลัก ยังแนะนำ Wait&See รอทยอยซื้อเมื่อ SET ต่ำกว่าระดับ 1340 ลงมา, SET จะกลับมาดูดีขึ้นอย่างน้อยต้องขึ้นมายืนแกว่งบริเวณ 1380-90 ให้ได้ก่อนจึงจะปรับมุมมอง
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TVO – บาทแข็งค่าตลอดทั้งไตรมาส 2 ล่าสุดอยู่ที่ 30.8 บ./$ แข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือน เป็นผลดีต่อ TVO จากต้นทุนนำเข้าถั่วเหลืองลดลง, มองแนวโน้มกำไร 2Q20F ในเชิงบวก จากมาร์จิ้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากราคาถั่วเหลืองที่ปรับตัวลงในช่วงก่อนหน้านี้ และใช้กำลังการผลิตเต็มทั้งหมด, ปันผลดี 5-6% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 30.5 บ. / หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง ชอบ EGCO, SYNEX, TVO / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL / หุ้นเก็ง Window Dressing - BGRIM, GULF, KTC, OSP, PRM, RATCH, SPALI, TTW / หุ้นเข้า SET50 ชอบ TTW, BPP / SET100 ชอบ ACE, DOHOME, RBF, TVO, WHAUP / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังต่อเนื่องถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BBL, KKP, BAM, AEONTS, SCC, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC
• หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) AMATA, BCH, CK, KBANK, SCCC, TVO
ข่าวเด่น