สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -6.45 จุด บาทอ่อนกดดันเงินทุนตปท.ไหลออก
SET แกว่ง +/- ในกรอบจำกัด 1343-57 มูลค่าซื้อขายแผ่วลงเหลือ 4.78 หมื่นลบ. ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ตลาดขาดปัจจัยกระตุ้นใหม่ นลท.จับตาการประกาศงบและการปรับครม.ทีมศก. อย่างไรก็ดี บาทอ่อนค่าแตะ 31.7 บ./$ กระตุ้นต่างชาติขายสุทธิ 1.97 พันลบ. 2 วันติด แต่ Long S50 Futures 2,039 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้: แกว่งทรงตัวในกรอบ 1340-60 รอดูงบกลุ่มการเงินเริ่มวันนี้
หุ้นโลกเมื่อวาน (16 ก.ค.) ปรับลงราว 0.5-0.6% จากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ สูงกว่าคาด อยู่ที่ 1.3 ล้านคน vs คาดที่ 1.25 ล้านคน และการประกาศผลประกอบการที่คละเคล้า (ดีกว่าคาด Bank of America, Morgan Stanley, Johnson & Johnson แย่กว่าคาด Netflix) ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 1% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงานด้วย หลัง OPEC+ ผ่อนปรนการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเป็น 7.7 ล้านบาร์เรล/วัน จนถึงสิ้นปีนี้ จากระดับปัจจุบันที่ลดกำลังผลิตอยู่ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน มอง SET มีแนวโน้มแกว่งทรงตัวในกรอบ 1340-60 ตลาดรอปัจจัยใหม่ นลท.จับตาการปรับครม.ทีมศก. และการประกาศผลประกอบการของหุ้นกลุ่มการเงินที่จะเริ่มต้นวันนี้ อาทิ TISCO, KTC รวมทั้งการประชุม EC นัดพิเศษ เพื่อพิจารณารายละเอียดกองทุนฟื้นฟูศก.มูลค่า 7.5 แสนล้านยูโร 17-18 ก.ค. นี้ ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 31.7 บ./$ อ่อนสุดใหม่ในรอบ 7 สัปดาห์ น่าจะกดดันกระแสเงินทุนตปท.ไหลออก แนวรับ 1340-42 แนวต้าน 1360+/- อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : แนะ Wait&See รอความชัดเจนทิศทางตลาด
แนะ Wait&See เป็นกลยุทธ์หลัก รอความชัดเจนของทิศทางตลาดก่อน, การรีบาวด์มองเป็นจังหวะขายกระชับพอร์ต รอซื้อคืนช่วงอ่อนตัว / พอร์ตการลงทุน หาก SET ย่อมาที่โซน 1300 หรือต่ำกว่า จะเป็นจังหวะทยอยสะสม
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick MTC – คาดกำไร 2Q20F อยู่ที่ 1.0 พันลบ. ทรงตัว YoY แต่ลดลง 14% QoQ เนื่องจากลูกค้าที่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลเร่งจ่ายคืนหนี้-ปิดสัญญาเงินกู้ครับ กดดันอัตราผลตอบแทนลดลง แต่ NPL ยังอยู่ในระดับต่ำแค่ 1.2% และการตั้งสำรองของบริษัทยังอยู่ในระดับสูงที่ 201%, เราคาดว่าสินเชื่อจะกลับมาเติบโตในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป จากโรงเรียนเปิดเทอมและเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร คาดจะผลักดันกำไรปีนี้และปีหน้าเติบโต 10% และ 20% ตามลำดับ, เป้าพื้นฐาน 69 บ. / หุ้นคาดงบจะออกมาดี มีปันผลจ่ายระหว่างกาล – DCC, BCH, CPF, SCC, SMPC, TASCO, TU, TVO / หุ้นที่ได้ประโยชน์จากบาทกลับมาอ่อนค่า – DELTA, HANA, CPF, TFG, SMPC / หุ้นได้ประโยชน์การกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL ฟื้นฟูศก. 4 แสนลบ.และเร่งรัดลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ชอบ SCC, SCCC, TASCO, CK, STEC, SEAFCO, PYLON / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BBL, KKP, BAM, AEONTS, SCC, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH
• หุ้นเด่น ก.ค. (Smart Tactics) BEM, CBG, DCC, PTG, SCC, TVO
• 6 หุ้นเด่นครึ่งปีหลัง BAM, CBG, CK, CPALL, SCC, TRUE
ข่าวเด่น