ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจีดีพีสหรัฐฯ หดตัวมากสุดในรอบ 74 ปี
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ก.ค. 63 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 39.92 -1.35
เบรนท์ 42.94 -0.81
ดูไบ 43.25 -0.15
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ก.ค. 63 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 44.67 -1.05
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 44.18 -0.34
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 49.39 -0.73
น้ำมันเตา (3.5% S) 40.59 -0.14
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังการเติบโตเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สอง ของปี 2563 ติดลบที่ระดับร้อยละ 32.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยเป็นการติดลบที่สูงที่สุดนับตั้งแต่หน่วยงานราชการของสหรัฐฯ ได้มีการบันทึกตัวเลขไว้ตั้งแต่ปี 2490
- นักลงทุนได้ทยอยขายสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงออกไป จากความกังวลของสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ให้ความเห็นถึงการพิจารณาของความเป็นไปได้ในการเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย. 2563 ออกไป โดยให้เหตุผลถึงความปลอดภัยของประชาชนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรนอกกลุ่ม เตรียมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบราว 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ ส.ค. 63 นี้ ตามแผนการลดกำลังการผลิตที่ได้ร่วมกันตกลงในการประชุมที่ผ่านมา ล่าสุดนักวิเคราะห์ยังคงกังวลว่า ความต้องการใช้น้ำมันโลกยังคงไม่ฟื้นตัว ซึ่งการเพิ่มกำลังการผลิตอาจจะทำให้เกิดสภาวะอุปทานล้นตลาดได้
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการส่งออกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นจากประเทศอินเดีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความต้องการใช้ที่ยังไม่ฟื้นตัวในภูมิภาค
ข่าวเด่น