สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +9.85 จุด รัสเซียประกาศใช้วัคซีน, น้ำมันไฮรอบ 5 เดือน
SET เปิดกระโดดขึ้น 2 วันติด และแกว่งแดนบวกทั้งวันในกรอบ 1343-53 แม้มีหุ้นขนาดใหญ่ (PTTEP, SCC) ขึ้น XD ถ่วง SET ก็ตาม อานิสงส์รัสเซียประกาศใช้วัคซีน และ Bond Yield ดีดตัวขึ้น ช่วยหนุนแรงซื้อคืนหุ้นเกี่ยวข้องท่องเที่ยวและหุ้นกลุ่มแบงก์ ต่างชาติขายสุทธิ 507 ลบ. 2 วันติด และ Long S50 Futures 2,822 สัญญา 5 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ รอแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ และการเจรจาสหรัฐฯ-จีน
หุ้นโลกเมื่อวาน (13 ส.ค.) ส่วนใหญ่ปิดปรับตัวลง โดยหุ้นยุโรปยุติขึ้น 4 วันติด ถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรหลังสหรัฐฯ ยังคงแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้ายุโรปหลายรายการมูลค่ารวม 7.5 พันล้านดอลลาร์ฯ ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการอุดหนุนอุตฯ ผลิตเครื่องบิน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดอ่อนตัวลงเล็กน้อย (ยกเว้นดัชนี NASDAQ ที่ปรับตัวขึ้นต่อ) แม้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรกต่ำกว่า 1 ล้านคนครั้งแรกนับตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ในเดือน มี.ค.ก็ตาม แต่นลท.รอติดตามความคืบหน้าแผนกระตุ้นศก.รอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันยังไร้ข้อยุติ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1% IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้าลง 1.4 แสนบาร์เรล/วัน และ 2.4 แสนบาร์เรล/วันตามลำดับ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ รอแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ และการทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกสหรัฐฯ-จีนในวันที่ 15 ส.ค. ส่วนการประกาศงบวันนี้เป็นวันสุดท้ายต้องระมัดระวังแรงขายแบบ “Sell on Facts” ราคาหุ้นไทยที่กระโดดขึ้น 2 วันติด คาดจะตอบรับข่าวความคืบหน้าวัคซีนไปแล้วในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องการท่องเที่ยว แต่งบ Q2 ที่ส่วนใหญ่ขาดทุนหนัก (MINT ขาดทุน 8.4 พันลบ.) แม้จะเป็นจุดต่ำสุด แต่แนวโน้มการฟื้นตัวในครึ่งปีหลังอาจไม่เร็วเท่ากับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมา แนวรับ 1335-40 แนวต้าน 1350-55 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / IP, YGG ติดวันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : หาก SET ปิดเหนือ 1350 จะเป็นโอกาสเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่
หาก SET ปิดเหนือระดับ 1350 คาดจะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มในสัปดาห์หน้า และมองจะเป็นโอกาสในการเปิดเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1380-90, มิฉะนั้น เรายังแนะนำถือเงินส่วนใหญ่เพื่อรอซื้อที่ต่ำ
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick WHA – กำไร 2Q20 ที่ 542 ลบ. เริ่มฟื้นตัว QoQ ตามที่เราคาดไว้ แต่ดีกว่าตลาดคาด 10%, เราคาดว่ากำไรจะค่อย ๆ ดีขึ้นต่อเนื่องในครึ่งปีหลังจากการโอนที่ดินเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัญหาภัยแล้งเริ่มผ่อนคลาย คาดจะทำให้การผลิตและการใช้น้ำในครึ่งปีหลังดีขึ้นด้วย, การคลายล็อกดาวน์เฟส 6 ที่อนุญาตให้กลุ่มนักธุรกิจเข้าปท.ได้ (Business Bubble) และแนวโน้มการกระจายการลงทุนออกจากปท.จีน หลังวิกฤต COVID-19 คาดจะเป็นผลดีต่อยอดขายที่ดินกลับมาเติบโตได้ในอนาคต, เป้าพื้นฐาน 3.7 บ. / MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรายไตรมาส มีผล ณ ราคาปิด 31 ส.ค. – ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกตามคาด / หุ้นคาดได้ประโยชน์จากกระทรวงอุตฯ จะกระตุ้นอุตฯ ยานยนต์ผ่านโครงการ “คูปองรถเก่าซื้อรถใหม่” – SAT, STANLY, KKP, YUASA / หุ้นรับการกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL การฟื้นฟูศก. 4 แสนลบ.-เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ชอบ SCCC, TASCO, CK, STEC, SEAFCO, PYLON / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BAM, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH
• หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) AP, CPF, DCC, PRM, SMPC, TVO
ข่าวเด่น