สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -19.64 จุด ไหลลงบ่ายตามหุ้นยุโรป อังกฤษเข้มเข้าปท.
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1324-47 ไหลลงเร็วในภาคบ่ายตามหุ้นยุโรปที่ดิ่งลง หลังอังกฤษคุมเข้มเข้าปท.ต้องกักตัว 14 วันสำหรับผู้มาจากปท.กลุ่มเสี่ยง เพิ่มฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และมอลตา รวมทั้งนลท.จับตาเจรจาสหรัฐฯ-จีน ต่างชาติขายสุทธิ 3.29 พันลบ. 3 วันติด และพลิก Short S50 Futures 15,425 สัญญา ยุติ Long 5 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลง ขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น, หลายเรื่องยังไม่มีความชัดเจน
หุ้นโลกวันศุกร์ที่ผ่านมา (14 ส.ค.) ส่วนใหญ่ปรับลง โดยเฉพาะหุ้นยุโรปร่วงลงมากกว่า 1% นลท.วิตกการแพร่ระบาดระลอก 2 ของ COVID-19 ซึ่งทำให้อังกฤษประกาศมาตรการคุมเข้มการเข้าปท.ต้องกักตัว 14 วันสำหรับผู้มาจากปท.กลุ่มเสี่ยง โดยเพิ่มฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์ และมอลตา เข้าไปด้วย นอกจากนี้ นลท.รอติดตามแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ และการทบทวนข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนเฟสแรก 15 ส.ค. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลงอีกเล็กน้อย -0.5% หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้าลง 1.4 แสนบาร์เรล/วัน และ 2.4 แสนบาร์เรล/วันตามลำดับ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซึมลง ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น รอความชัดเจนของหลายเรื่อง ทั้งการทบทวนข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีนเฟสแรกที่เลื่อนออกไป และยังไม่มีการกำหนดวันเจรจาใหม่ รวมทั้งแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เพิ่มความกังวลมากขึ้นต่อการฟื้นตัวทางศก. หลังยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ใน ก.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ขณะที่ปัจจัยในปท. แนวโน้มการหั่นประมาณการกำไรบจ.ยังคงดำเนินต่อไป และการชุมนุมทางการเมืองเริ่มมีน้ำหนักเชิงลบต่อมากขึ้น กดดันทิศทาง Foreign Fund Flows เป็นลบต่อเนื่อง แนวรับ 1320, 1310 แนวต้าน 1330, 1340 อนึ่ง IP, YGG ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 4 ก.ย.
กลยุทธ์การลงทุน : หาก SET ปิดเหนือ 1350 จะเป็นโอกาสเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่
SET ถอยหลังลงแรงเมื่อวันศุกร์ ยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1350 ได้ ดังนั้น เรายังคงแนะนำถือเงินสดส่วนใหญ่รอซื้อที่ต่ำ โดยเฉพาะหาก SET ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1300 มองจะเป็นจังหวะดีในการทยอยเข้าลงทุน
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TASCO – แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังคาดยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน Q3 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่น และบริษัทมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปถึงเดือน ต.ค. แล้ว ส่งผลให้ยอดขายปีนี้คาดจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.9 ล้านตัน หลังครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 9 แสนตัน, นอกจากนี้จะทยอยบันทึกค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ถังเก็บน้ำมันดิบที่มาเลเซียบางส่วนในช่วง 3Q20 และทั้งหมดใน 4Q20, มองราคาหุ้นที่ร่วงกว่า 12% ในสัปดาห์ที่แล้วเป็นจังหวะ “ซื้อ”, เป้าพื้นฐาน 32 บ. / MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรายไตรมาส มีผล ณ ราคาปิด 31 ส.ค. – ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกตามคาด / หุ้นคาดได้ประโยชน์จากกระทรวงอุตฯ จะกระตุ้นอุตฯ ยานยนต์ผ่านโครงการ “คูปองรถเก่าซื้อรถใหม่” – SAT, STANLY, KKP, YUASA / หุ้นรับการกระตุ้นท่องเที่ยวในปท. เด่น ERW, BJC, CPALL การฟื้นฟูศก. 4 แสนลบ.-เร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ชอบ SCCC, TASCO, CK, STEC, SEAFCO, PYLON / หุ้นน่าสะสมช่วงตลาดผันผวน มองกำไรฟื้นตัวครึ่งปีหลังถึงปีหน้า – CPALL, HMPRO, BAM, CK, SEAFCO, BEM และหุ้นปันผลดี - EASTW, EGCO, RATCH, INTUCH, DCC, SCCC, LH, QH, DIF, TFFIF / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH
• หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) AP, CPF, DCC, PRM, SMPC, TVO
ข่าวเด่น