สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +9.20 จุด แรงซื้อคืนหุ้นแบงก์-เก็งปันผลระหว่างกาล
SET แกว่งแดนบวกทั้งวันในกรอบ 1321-30 ค่อย ๆ ไต่ขึ้นและปิดระดับสูงสุดของวัน จากแรงซื้อคืนหุ้นแบงก์ เก็งว่าอาจกลับมาจ่ายปันผลระหว่างกาลได้ในช่วงสิ้นปีนี้ แต่วอลุ่มเทรดยังไม่หนาแน่นนัก เพียง 5.08 หมื่นลบ. รอติดตามปัจจัยชี้นำใหม่ ต่างชาติซื้อสุทธิ 531 ลบ. และ Long S50 Futures สูงถึง 13,314 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงบวกเล็กน้อย การลงทุนต่างชาติมีสัญญาณบวก
หุ้นโลกเมื่อวาน (18 ส.ค.) ปิด +/- กระจัดกระจาย โดยหุ้นยุโรปร่วง ถูกกดดันจากความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนที่เพิ่มขึ้น หลังสหรัฐฯ แบน Huawei เพิ่ม และจับตาสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 รอบใหม่ แต่หุ้นสหรัฐฯ นำโดยดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดระดับสูงสุดใหม่ ขานรับข้อมูลภาคอสังหาฯ ที่เร่งตัวขึ้นมากในรอบเกือบ 4 ปี ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ปิดทรงตัวที่ระดับ 42.89 $/บาร์เรล และ 45.56 $/บาร์เรล ตามลำดับ นลท.รอติดตามการรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ ให้น้ำหนักอิงทางแดนบวกเล็กน้อย Sentiment หุ้นโลกไม่ได้เป็นลบ ขณะที่เริ่มมีสัญญาณบวกของทิศทางการลงทุนต่างชาติ หลังดอลล์อ่อนค่ามาก เมื่อวานซื้อสุทธิ 531 ลบ. และ Long S50 Futures 1.3 หมื่นสัญญา อย่างไรก็ดี SET ยังไม่ไปไหนไกล จากปัจจัยเสี่ยงตปท. ทั้งแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ที่ล่าช้า, สถานการณ์แพร่ระบาดฯ และความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ปัจจัยในปท. ยังถูกกดันแนวโน้มการหั่นประมาณการกำไรตลาดลงและการชุมนุมทางการเมือง วันนี้แนะนำติดตามการประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูศก.นัดแรก คาดจะเน้นการฟื้นฟูศก. โดยเฉพาะเรื่องการปากท้องของปชช.และการเพิ่มการจ้างงาน) และรายงานประชุม FED ครั้งก่อน แนวรับ 1320, 1315 แนวต้าน 1340, 1350
กลยุทธ์การลงทุน : หากต้องการเก็งกำไร แนะใช้กรอบ 1300-1350 ลงซื้อ-ขึ้นขาย
ตราบใดที่ SET ยังไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1350 ได้ เรายังแนะนำถือเงินสดส่วนใหญ่เพื่อรอซื้อที่ต่ำ โดยเฉพาะหาก SET ปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 1300 / แต่หากต้องการเก็งกำไรสั้นๆ แนะนำ SET ในกรอบ 1300-1350
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PTG – เรายังแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าพื้นฐาน 20 บ., คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังจะเติบโต 18% HoH จาก 1) ปริมาณขายน้ำมันที่คาดเติบโตจากการกลับมาเดินทางหลังจากการคลายล็อคดาวน์และการท่องเที่ยวในปท.หนุนการใช้น้ำมัน โดยเดือน ก.ค. +10% YoY 2) ค่าการตลาดน้ำมันยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 1.80-2.0 บ./ลิตร (บางวันอยู่ในระดับที่เกินกว่า 2 บ./ลิตร) 3) ธุรกิจ Non-oil เริ่มมีทิศทางที่ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน MaxMart และ Punthai ที่เริ่มกลับมาเติบโตในระดับก่อนการระบาด / MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรายไตรมาส มีผล ณ ราคาปิด 31 ส.ค. – ไม่มีหุ้นไทยเข้า-ออกตามคาด / สไตล์เก็งกำไรระยะสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย หุ้นที่เห็นสัญญาณตลาดปรับประมาณการกำไรขึ้น – SENA, TRUE, TU / หุ้นงบ Q2 เป็นจุดต่ำ แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวและปีหน้ากลับมาโตกว่าช่วงก่อน COVID-19 – BJC, ILINK, PLANB, WHA / หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก – CPF, PRM, RS, SMPC / สไตล์ลงทุนแบบระยะกลาง-ยาว แนะหาจังหวะสะสม กลุ่มอุตฯ ที่มักแข็งแกร่งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม 4 แสนล้านบาท และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO, TASCO / หุ้นปันผลดี เด่น AP, BBL, DIF, KKP, LH, QH, SCCC, SMPC, TVO / หุ้นรอลุ้นวัคซีน ฟื้นตัวจากฐานราคาและกำไรที่ต่ำ – AOT, BDMS, CENTEL, CPN, CRC, SPA
• หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) AP, CPF, DCC, PRM, SMPC, TVO
ข่าวเด่น