ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังสหรัฐฯ ระงับการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเพิ่มขึ้นจากพายุที่พัดถล่ม

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  25  ส.ค. 63 เปลี่ยนแปลง                                                                              

เวสต์เท็กซัส 43.35 +0.73

เบรนท์ 45.86 +0.73

ดูไบ 44.51 +0.57

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 25  ส.ค. 63 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  49.71 +0.54

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  43.97 +0.47

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 48.24 +0.78

น้ำมันเตา (3.5% S) 43.16 +0.25

+ น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่ม หลังมีการคาดการณ์ว่าพายุ "ลอร่า" จะทวีความรุนแรงขึ้น ด้วยความเร็วลมกว่า 115 ไมล์ต่อชั่วโมง ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกต้องปิดราวร้อยละ 84 หรือคิดเป็น 1.56 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17 ของการผลิตน้ำมันทั้งหมดในสหรัฐฯ

+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ส.ค. 63 ปรับลดลงกว่า 4.5 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 508 ล้านบาร์เรล ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.7 ล้านบาร์เรล

- ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในทวีปยุโรป รวมถึงการพบผู้ที่กลับมาติดเชื้อใหม่หลังรักษาตัวจนหายดีแล้วในยุโรปและฮ่องกง

 ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในภูมิภาค ถูกกดันในช่วงมรสุม ประกอบกับการส่งออกน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นจากจีน ส่งผลให้อุปทานยังคงอยู่ในระดับสูง

 ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่น ท่ามกลางอุปสงค์ในภูมิภาคที่ทรงตัว