สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.50 จุด ขายล็อกกำไร มีความไม่แน่นอนหลายเรื่อง
SET ปรับขึ้นในภาคเช้า ขานรับ FED ยืดหยุ่นการดำเนินนโยบายการเงิน โดยปรับเป้าหมายเงินเฟ้อที่ “2%” เป็น “เฉลี่ย 2%” แต่ภาคบ่ายโดนแรงขายล็อกกำไรจนพลิกปิดแดนลบ มีความไม่แน่นอนหลายเรื่อง ทั้งความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน และการเมืองในปท. ต่างชาติขายสุทธิอีก 3.81 พันลบ.และพลิก Short S50 Futures 16,004 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงบวกเล็กน้อย ดอลล์อ่อนหนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยง
หุ้นโลกวันศุกร์ (28 ส.ค.) ปิดสวนทางกันตามข้อมูลศก. โดยหุ้นยุโรปปรับลง หลังคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมันใน ก.ย. ติดลบ -1.8 ซึ่งแย่กว่าที่ตลาดคาด +0.5 สร้างความกังวลต่อแนวโน้มศก. ท่ามกลางยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นในยุโรป ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น โดยดัชนี DJIA กลับมาปิดบวกแล้วในปีนี้ ส่วนดัชนี S&P500 และ NASDAQ ปิดสูงสุดใหม่ จากข้อมูลรายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน ก.ค. ดีกว่าคาด +0.4% และ +1.9% ตามลำดับ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อิงบวกเล็กน้อย ดอลลาร์ฯ อ่อนค่า หลัง FED ปรับเป้าหมายเงินเฟ้อยืดหยุ่นขึ้น เป็นบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง แต่หุ้นไทยยังถูกถ่วงด้วยระดับการประเมินมูลค่าที่สูง และปัญหาการเมือง ทำให้ตลาดไม่ไปไหนไกล สำหรับ MSCI Rebalancing จะใช้ราคาปิดวันนี้ ไม่มีหุ้นไทยเข้าและออก แต่ต้องระวังความผันผวนหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากหุ้นไทยถูกลดน้ำหนักลงเล็กน้อย -0.01% เป็น 2.00% แนวรับ 1320, 1310 แนวต้าน 1330-33, 1340 อนึ่ง ETC ติด Cash Balance 31 ส.ค. – 9 ต.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรในกรอบ SET 1300-1350
การเก็งกำไรช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง แนะเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัวแบบจำกัดวงเงิน ลงซื้อ-ขึ้นขาย ในกรอบ 1300-1350 / สำหรับพอร์ตลงทุน อ่อนตัวเป็นจังหวะทยอยสะสม แต่ไม่ต้องรีบร้อนในช่วง 1-2 เดือนนี้
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick JWD – เรามองกำไร 2Q20 เป็นจุดต่ำสุดแล้ว คาดแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่ 3Q20 เป็นต้นไป ผลจากธุรกิจสินค้าอันตรายที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว ขณะที่ธุรกิจห้องเย็น, ธุรกิจให้บริการอาหาร และการขนส่งทั้งที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและการเพิ่มธุรกิจขนส่งใหม่ (barge terminal) ตั้งแต่ ก.ค. ปีนี้ ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง ผสานกับมุมมองเชิงบวกต่อแผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้า เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 20-22F ขึ้น 11%, 23% และ 12% ตามลำดับ เป้าพื้นฐานใหม่มาอยู่ที่ 11.4 บ. / FTSE Rebalancing ใช้ราคาปิด 18 ก.ย. Large Cap : เข้า CRC, BBL-R, BGRIM ออก TOP / Mid Cap : เข้า TOP, CBG ออก BGRIM / Small Cap : เข้า MEGA, IMPACT, JMT ออก CBG / หุ้นที่เห็นสัญญาณตลาดปรับประมาณการกำไรขึ้น – SENA, TRUE, TU / หุ้นงบ Q2 เป็นจุดต่ำ แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวและปีหน้ากลับมาโตกว่าช่วงก่อน COVID-19 – BJC, ILINK, PLANB, WHA / หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก – CPF, PRM, RS, SMPC / หุ้นหาจังหวะสะสมเพื่อการลงทุน กลุ่มอุตฯ ที่มักแข็งแกร่งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม 4 แสนลบ. และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO, TASCO / หุ้นปันผลดี เด่น AP, BBL, DIF, KKP, LH, QH, SCCC, SMPC, TVO / หุ้นรอลุ้นวัคซีน ฟื้นตัวจากฐานราคาและกำไรที่ต่ำ – AOT, BDMS, CENTEL, CPN, CRC, MAJOR, SPA
• หุ้นเด่น ส.ค. (Smart Tactics) AP, CPF, DCC, PRM, SMPC, TVO
ข่าวเด่น