ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -18.15 จุด หลุดระดับ 1300 การเมืองฉุดความเชื่อมั่น


SET อ่อนแอกว่าคาด โดยแกว่งแดนลบตลอดทั้งในกรอบ 1293-1305 และปิดต่ำกว่าระดับ 1300 อีกครั้งในรอบ 3 สัปดาห์ ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ กังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศและความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีนรอบใหม่ ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 126 ลบ. 7 วันติด และ Short S50 Futures 13,431 สัญญา ?

ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกลงตามทิศทางหุ้นโลกและราคาน้ำมันที่ถูก “Sell-off”
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (8 ก.ย.) ดิ่งลงแรง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง 3 วันติด ต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ดัชนี NASDAQ ดิ่งเหวถึง 4% จากหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ ถูกขายต่อเนื่อง 3 วันติด หลังปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้จนทำให้การประเมินมูลค่าหุ้นอยู่ในระดับสูง และกังวลสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน หลังปธน.ทรัมป์ต้องการลดความสัมพันธ์ทางศก.กับจีนลง พร้อมขู่ใช้มาตรการลงโทษบริษัทของสหรัฐฯ ที่ไปสร้างงานในตปท. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI -8% มาอยู่ที่ 36.76 $/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกลง ตามทิศทางหุ้นโลกและราคาน้ำมันที่ถูก “Sell-off” กังวลข้อพิพาทสหรัฐฯ-จีนที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ผสานกับปัจจัยการเมืองในปท.ยังกดดันความเชื่อมั่นนลท.อยู่ แนะติดตามการประชุมสภา 9-10 ก.ย. นี้เพื่อเปิดอภิปรายเกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองและพิจารณาผลการศึกษาวิธีการแก้ไขรธน. อาจช่วยลดความตึงเครียดของการเมืองภายในปท.ลงได้ก่อนที่กลุ่มนักศึกษาจะนัดชุมนุมใหญ่ 19 ก.ย. แนวรับ 1290-92, 1280 แนวต้าน 1300-1305 ?
กลยุทธ์การลงทุน : ชะลอการเก็งกำไร แต่เป็นจังหวะทยอยสะสมเพื่อการลงทุน
 
SET เมื่อวานปิดต่ำกว่าระดับ 1300 เป็นสัญญาณเตือนที่ไม่ดี ควรชะลอการเก็งกำไรเพื่อรอดูอาการ SET ก่อน และควร Stop หากปิดต่ำกว่า 1290 / พอร์ตลงทุน มองการอ่อนตัวเป็นจังหวะสะสม แต่ไม่ต้องรีบร้อนในช่วง 1-2 เดือนนี้
 
ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TFFIF – จำนวนผู้ใช้ทางด่วนลดลงกว่า c30% ใน 3QFY20 (งบการเงินสิ้นสุด มิ.ย.) จากผลกระทบ COVID-19 แต่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ปัจจุบันฟื้นตัวจนใกล้ระดับปกติแล้ว, อย่างไรก็ดีผลประกอบการ 9MFY20 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 62% ของประมาณการปี FY20F เราจึงปรับลดประมาณการปี FY20-23F ลง 17%, 6% และ 11% ตามลำดับ แต่ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”, เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside กว่า 16% จากเป้าพื้นฐานใหม่ที่ 12 บ. และมีเงินปันผลที่เฉลี่ยราว 4% ต่อปี / รัฐเล็งแจกเงิน 3 พันบ. กระตุ้นการบริโภค – CPALL, BJC, CRC / FTSE Rebalancing ใช้ราคาปิด 18 ก.ย. Large Cap : เข้า CRC, BBL-R, BGRIM ออก TOP / Mid Cap : เข้า TOP, CBG ออก BGRIM / Small Cap : เข้า MEGA, IMPACT, JMT ออก CBG / หุ้นงบ Q2 เป็นจุดต่ำ แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัวและปีหน้ากลับมาโตกว่าช่วงก่อน COVID-19 – BJC, ILINK, PLANB, WHA / หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก – CPF, PRM, RS, SMPC / หุ้นหาจังหวะสะสมเพื่อการลงทุน กลุ่มอุตฯ ที่มักแข็งแกร่งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ-สังคม 4 แสนลบ. และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO, TASCO / หุ้นปันผลดี เด่น AP, BBL, DIF, KKP, LH, QH, SCCC, SMPC, TVO / หุ้นรอลุ้นวัคซีน ฟื้นตัวจากฐานราคาและกำไรที่ต่ำ – AOT, BDMS, CENTEL, CPN, CRC, MAJOR, SPA 
หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AEONTS, BEM, BGC, CENTEL, CRC, TU
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 09 ก.ย. 2563 เวลา : 11:17:51

23-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 23, 2024, 8:36 pm