ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลัง OPEC+ กำชับการลดกำลังการผลิตอย่างเคร่งครัด
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ก.ย. 63 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 40.97 +0.81
เบรนท์ 43.30 +1.08
ดูไบ 41.85 + 0.51
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ก.ย. 63 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 48.47 +0.96
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 39.75 +0.92
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 42.97 -0.19
น้ำมันเตา (3.5% S) 40.32 +0.05
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดคาดกำลังการผลิตน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร (OPEC+) เผยว่าจะกดดันอิรัก ไนจีเรียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ให้ปรับลดการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติม เพื่อชดเชยการผลิตน้ำมันดิบกว่า 2.38 ล้านบาร์เรลที่สูงกว่าข้อตกลงในเดือน พ.ค.-ก.ค. 63 และขยายระยะเวลาการชดเชยจาก ก.ย. 63 ไปจนถึง ธ.ค. 63
- สหรัฐฯ เริ่มกลับมาดำเนินการผลิตที่แท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในบริเวณอ่าวเม็กซิโก หลังพายุเฮอริเคนซัลลี่เคลื่อนที่ผ่านไป ซึ่งแท่นขุดเจาะบริเวณอ่าวเม็กซิโกได้หยุดดำเนินการผลิตน้ำมันดิบไป 5 วัน โดยมีกำลังการผลิตราว 0.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- ราคาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดัน จากความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันเบนซินจากอินโดนีเซียและคูเวตที่เพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับปัจจัยกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของสหรัฐฯ และสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ข่าวเด่น