สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.53 จุด ต่ำสุดรอบเกือบ 6 เดือน หลายปัจจัยลบกดดัน
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1262-75 ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 6 เดือน ถูกกดดันจากผู้ติดเชื้อฯ ในยุโรปที่เพิ่มขึ้น และความตึงเครียดสหรัฐฯ-จีน นอกจากนี้ หุ้นแบงก์ยังถูกกดดันจากข่าวที่มีธุรกรรมต้องสงสัยการกระทำผิดกม. ต่างชาติขายสุทธิ 1.41 พันลบ. 5 วันติด และ Short S50 Futures 19,704 สัญญา 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-ซึมตัว ขาดปัจจัยใหม่หนุน, ห่วงการฟื้นตัวศก.
หุ้นโลกเมื่อวาน (22 ก.ย.) รีบาวด์ทางเทคนิค จากการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯ แต่หุ้นแบงก์ยังปรับตัวลงเกือบ 1% กังวลผลกำไรถูกถ่วงด้วยแนวโน้มศก.และดบ.ที่ยังต่ำอีกนาน หลังปธ.FED ชี้แจงต่อกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ว่า ศก.สหรัฐฯ จะอ่อนแอลงในระยะข้างหน้า เนื่องจากขาดมาตรการกระตุ้นศก.จากรัฐบาล แต่ยืนยันจะใช้นโยบายการเงินสนับสนุนศก.อย่างเต็มที่ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เด้งขึ้น 29 เซนต์ หรือ +0.7% เก็งสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-ซึมตัว ขาดปัจจัยใหม่หนุน นลท.ห่วงการฟื้นตัวศก.โลกจะหยุดชะงักจากความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นจากสหรัฐฯ และการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ โดยเฉพาะในยุโรป (สเปน, ฝรั่งเศส และอังกฤษ) ที่มีผู้ติดเชื้อฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่การประชุมครม.เมื่อวานนี้ แม้อนุมัติวันหยุดเพิ่ม แต่ยังไม่อนุมัติโครงการ “คนละครึ่ง-เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการรัฐ” และเรามองยังช่วยศก.และตลาดหุ้นได้น้อย แนวรับ 1260-62, 1250+/- แนวต้าน 1275, 1280
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
การเก็งกำไรช่วงนี้ต้องรับความเสี่ยงได้สูง เน้นเลือกเป็นรายตัว, เข้า-ออกไว ไม่หวังส่วนต่างราคามาก มองหุ้นยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มแกว่งซิกแซกลง / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว แต่ไม่ต้องรีบร้อนในช่วง 1-2 เดือนนี้
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick SMPC – ภาพรวมยอดขายถังแก๊สใน Q3 ยังโตต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้าในบังคลาเทศกลับมาสั่งซื้อแล้ว และได้เปรียบด้านภาษีกว่าคู่แข่งจีนที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ จากการกีดกันการค้า ส่งผลให้ยอดขายทั้งปีนี้ที่ 7.3 ล้านถัง คาดจะบรรลุได้ตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ ขณะที่ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าที่ 8.4 ล้านถัง หรือ +15% จากความต้องการในแอฟริกาและเอเชียใต้ที่เพิ่มขึ้น, ฐานะการเงินแข็งแกร่ง (D/E 0.3x) และราคาหุ้นยังไม่แพง ROE อยู่ที่ 27% ขณะที่ PER ปีนี้อยู่ที่ 12.2x ปีหน้าลดลงเหลือ 11.1x และมี Div. Yield เฉลี่ย 5% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 17.1 บ. / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีนและการเริ่มเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นเก็ง “Window Dressing” – BCH, BGRIM, BJC, CBG, EPG, GULF, ORI / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM, SYNEX / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก – CPF, PRM, RS, SMPC / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AEONTS, BEM, BGC, CENTEL, CRC, TU
ข่าวเด่น