สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.62 จุด ขาดปัจจัยใหม่หนุน, ห่วงการฟื้นตัวศก.สะดุด
SET แกว่ง +/- ในกรอบแคบ 1260-72 ตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุน นลท.ห่วงการฟื้นตัวศก.โลกจะหยุดชะงักจากความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นของสหรัฐฯ และการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ในยุโรป ทั้งสเปน, ฝรั่งเศส และอังกฤษ ต่างชาติขายสุทธิ 903 ลบ. 6 วันติด และ Short S50 Futures 15,788 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ ภาวะ “Risk-off” หนุนดอลล์แข็งค่า กดดัน EM
หุ้นโลกเมื่อวาน (23 ก.ย.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปิดบวกจากความหวังมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติม หลังข้อมูลเบื้องต้น PMI โดยรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการปรับตัวลงจาก 51.9 จุดใน ส.ค. สู่ระดับ 50.1 จุดใน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน และปริ่มเข้าสู่เกณฑ์หดตัวที่ระดับต่ำกว่า 50 จุด ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ร่วงหนัก ดัชนี DJ ดิ่งลงมากกว่า 500 จุด จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีระลอกใหม่ และความล่าช้าของมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ ซึ่งปธ.FED ย้ำเตือนว่า การฟื้นตัวศก.สหรัฐฯ ต้องใช้เวลาและต้องมีมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติมจากรัฐบาล มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ นลท.อยู่ในภาวะ “Risk-off” จากความกังวลการฟื้นตัวศก.โลกจะหยุดชะงัก หลังตัวเลขศก.เริ่มแผ่วลง โดยเฉพาะ PMI ภาคบริการของสหภาพยุโรปใน ก.ย. ที่พลิกมาหดตัว ขณะที่การแพร่ระบาดฯ กลับมาเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และยุโรป เสี่ยงต่อการล็อกดาวน์ครั้งใหม่ หนุนให้ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งสุดในรอบ 2 เดือน คาดจะกดดันต่อตลาดหุ้น EM สำหรับตัวเลขส่งออกไทยเดือน ส.ค. เมื่อวาน หดตัว 7 เดือนติด -7.9% YoY แม้ดีกว่าตลาดคาดที่ -13% แต่หากไม่รวมการส่งออกทองคำที่ +71.5% การส่งออกไทยจะติดลบ 14.2% วันนี้แนะนำติดตามการประชุมสภาร่วมพิจารณาร่างแก้ไขรธน. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ตลาดคาดอยู่ที่ 8.4 แสนคน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 8.6 แสนคน แนวรับ 1260, 1250+/- แนวต้าน 1270-75
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
การเก็งกำไรช่วงนี้ เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น เน้นเลือกเป็นรายตัว, เข้า-ออกไว ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว แต่ไม่ต้องรีบร้อนในช่วง 1-2 เดือนนี้
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BGC – คาดกำไรครึ่งปีหลังจะโตกว่าครึ่งปีแรก +22.8% HoH โดยแนวโน้มกำไร 3Q20F ในเบื้องต้น คาดจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ, เราปรับประมาณการกำไรปี 2020-22F ขึ้น 13-29% จากประสิทธิภาพการผลิตและมาร์จิ้นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น รวมทั้งต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวลง, ปันผลดี 4-5% ต่อปี จ่ายทุกไตรมาส, ปรับเป้าพื้นฐานใหม่ขึ้นจากเดิม 12.4 บ. เป็น 14.3 บ. ยังแนะนำ “ซื้อ” / ดัชนีค่าระวางเรือบวก 5 วันติด และปรับขึ้นในอัตราเร่ง เป็นบวกต่อ PSL, TTA / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีนและการเริ่มเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นเก็ง “Window Dressing” – BCH, BGRIM, BJC, CBG, EPG, GULF, ORI / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM, SYNEX / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นแนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังยังดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก – CPF, PRM, RS, SMPC / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) AEONTS, BEM, BGC, CENTEL, CRC, TU
ข่าวเด่น