ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +10.55 จุด เด้งจากวันก่อนลงแรง, ลุ้นแผนกระตุ้นศก


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +10.55 จุด เด้งจากวันก่อนลงแรง, ลุ้นแผนกระตุ้นศก.

SET ผันผวนในกรอบ 1232-51 ฟื้นตัวจากวันก่อนที่ลงแรง คาดหวังมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ มีความคืบหน้า รวมทั้งลุ้นมาตรการกระตุ้นศก.จากรัฐบาลเพิ่มเติม แต่วอลุ่มเทรดน้อย 4.4 หมื่นลบ. เนื่องจากหุ้นภูมิภาคหลายแห่งปิดทำการ ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย 119 ลบ. 12 วันติดต่อกัน แต่พลิก Long S50 Futures 14,353 สัญญา 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : บรรยากาศเป็นลบเล็กน้อย ราคาน้ำมันดิ่งเกือบ 4%
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (1 ต.ค.) ส่วนใหญ่ขยับขึ้นเล็กน้อย คาดหวังมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ จะมีความคืบหน้าในไม่ช้านี้ หลังรมว.คลังและปธ.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำลังพยายามผลักดันมาตรการเยียวยารอบใหม่ ซึ่งมีรายละเอียดสำคัญที่ขนาดวงเงิน 1.6-2.2 ล้านล้านดอลลาร์ฯ อย่างไรก็ดี ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงเกือบ 4% ปิดต่ำสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ และต่ำกว่าระดับ 40 $/บาร์เรลอีกครั้ง กังวลการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่จะกดดันแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมัน และมีรายงานข่าวการผลิตน้ำมันของกลุ่ม OPEC ใน ก.ย. สูงขึ้น 160,000 บาร์เรล/วันจากเดือนก่อนหน้า จากอุปทานน้ำมันของลิเบียและอิหร่านที่เพิ่มขึ้น  มองแนวโน้ม SET วันนี้เป็นลบเล็กน้อย คาดจะถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีตามทิศทางราคาน้ำมันที่ดิ่งลงแรง และตัวเลขศก.สหรัฐฯ ที่เริ่มแผ่ว โดย ISM ภาคการผลิตสหรัฐฯ ใน ก.ย. อยู่ที่ 55.4 จุด ลดลงจาก 56.0 จุดในเดือนก่อนหน้า และแย่กว่าตลาดคาดที่ 56.5 จุด ขณะที่การซื้อขายคาดยังคงเงียบเหงาต่อไป เนื่องจากตลาดหุ้นภูมิภาคหลายแห่งยังปิดทำการต่อเนื่อง วันนี้แนะนำติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 875,000 ตำแหน่ง ชะลอลงจากที่เพิ่มขึ้น 1,371,000 ตำแหน่งในเดือนก่อนหน้า แนวรับ 1240+/-, 1230 แนวต้าน 1251-52, 1260 อนึ่ง คาด DDD, IP จะติด Cash Balance เย็นนี้ / ETC จะติด Cash Balance วันสุดท้ายในวันที่ 9 ต.ค. 
 
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
 
การเก็งกำไรช่วงนี้ เหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูงเท่านั้น เน้นหุ้น Small Cap เพราะมองยังมีแนวโน้ม Outperform ต่อเนื่องในระยะสั้น / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว แต่ไม่ต้องรีบร้อนในช่วง 1-2 เดือนนี้
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BAM – มองงบครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกอย่างมาก จากที่ทำกำไรได้เพียง 834 ลบ.ใน 1H20 หลักๆ จากฟื้นตัวทางศก.และการคลายล็อกดาวน์ ช่วยให้การขายสินทรัพย์และการติดตามหนี้ได้ดีขึ้น, คาดมีโอกาสเข้า SET50 ในต้นปีหน้า (ประกาศกลาง ธ.ค. นี้), มองราคาหุ้นร่วงกว่า 15% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นจังหวะ “ซื้อ”, เป้าพื้นฐาน 26 บ. / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีน-การเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM, SYNEX / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, AOT, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO 
 
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BGC, PRM, SEAFCO, SMPC, SYNEX, TPIPL 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 02 ต.ค. 2563 เวลา : 10:24:46

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 7:57 am