สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +7.16 จุด น้ำมันเด้งแรง, คลายกังวลอาการ “ทรัมป์”
SET ยกตัวขึ้น 2 วันติด แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1249-57 เช่นเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น คลายกังวลอาการ “ทรัมป์” และหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีปรับตัวขึ้นโดดเด่นตามทิศทางราคาน้ำมันที่เด้งขึ้นแรง บวกเกือบ 6% ต่างชาติขายสุทธิ 3.46 พันลบ. 15 วันติด แต่ Long S50 Futures 5,760 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนตัวลง “ทรัมป์” สั่งระงับการเจรจามาตรการกระตุ้นศก.
หุ้นโลกเมื่อวาน (6 ต.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยไปก่อนที่หุ้นสหรัฐฯ จะพลิกร่วงลง (เปิดสูง-ปิดต่ำ) โดยดัชนี DJ -375 จุด หรือ -1.3% หลังปธน.ทรัมป์สั่งระงับการเจรจามาตรการกระตุ้นศก.รอบใหม่กับปธ.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ไปจนถึงหลังการเลือกตั้งฯ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธ.กลางสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งการใช้จ่ายด้านการคลังเพื่อสนับสนุนภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจก่อนที่จะเกิดผลกระทบที่เลวร้ายทางศก. อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นต่อ +1.45$ หรือบวกเกือบ 4% ปิดเหนือระดับ 40 $/บาร์เรลอีกครั้ง กังวลภาวะอุปทานจะหยุดชะงักจากพายุที่กำลังพัดเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก มอง SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลง จากความล่าช้าของแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ และความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ต้นเดือนหน้า อาจทำให้การฟื้นตัวทางศก.หยุดชะงัก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในหลายปท.ที่ยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ดี การประชุม ศบศ.ในวันนี้ จะพิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคในปท. หากออกมามีเงื่อนไขดี คาดจะช่วยพยุงตลาดไม่ปรับลงมาก วันนี้แนะติดตามรายงานประชุม BOT และ FED ครั้งก่อน และการโต้วาทีของรองปธน.สหรัฐฯ จากทั้ง 2 พรรค แนวรับ 1240, 1230 แนวต้าน 1260
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
SET เมื่อวานปิดที่ 1250 ซึ่งเป็นจุดแบ่ง Sentiment พอดี แต่ด้วยสภาพแวดล้อมวันนี้เป็นลบ มองยังไม่ยืนยันสัญญาณบวก, การเก็งกำไรช่วงนี้เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เน้นขายช่วงราคาหุ้นปรับขึ้น รอย่อตัวซื้อคืน เพราะตลาดระยะสั้นยังแกว่งในทิศทางซิกแซกลง / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว แต่ไม่ต้องรีบร้อน
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick AEONTS – เพิ่งประกาศกำไร 2QFY20 (งบการเงินสิ้นสุด ส.ค.) ที่ 966 ลบ. +2.6% YoY และ +82% QoQ ดีกว่าเราคาด 34% และตลาดคาด 21% จากรายได้หนี้สูญรับคืนเพิ่มขึ้นมาก และการควบคุมค่าใช้จ่าย, ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.85 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 1.5% XD 19 ต.ค., คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หลังราคาหุ้นปีนี้ยังปรับตัวลง -37% vs ตลาด -21% และ KTC -7%, เป้าพื้นฐาน 180 บ. / ประชุม ศบศ. 7 ต.ค. เตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคในปท. (ช้อปช่วยชาติ) – COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเกี่ยวข้องกับการเติบโตของเทคโนโลยีและกระแส “New Normal” – HANA, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีน-การเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – BGC, DELTA, KCE, KTC, MTC, PRM, SYNEX / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, AOT, BAM, BDMS, BEM, CPALL, KTC, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BGC, PRM, SEAFCO, SMPC, SYNEX, TPIPL
ข่าวเด่น