สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +6.29 จุด มาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ มีสัญญาณบวก
SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1265-77 ขานรับการเจรจามาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยทำเนียบขาวยอมเพิ่มวงเงินกระตุ้นศก.ขึ้นเป็น 1.8 ล้านล้านดอลล์ แต่มูลค่าซื้อขายไม่คึกคัก คาบเกี่ยววันหยุด และรอดูการชุมนุมฯ 14 ต.ค. ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 758 ลบ.ยุติขาย 18 วันติด และพลิก Long S50 Futures 3,656 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-ไซด์เวย์ดาวน์กรอบแคบ รอดูหลายปัจจัยสัปดาห์นี้
หุ้นโลกเมื่อวาน (13 ต.ค.) ปรับตัวลง วิตกข่าว Johnson & Johnson ถูกทางการสหรัฐฯ สั่งระงับการทดลองวัคซีน COVID-19 หลังมีผู้เข้าร่วมการทดลองล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ รวมทั้ง Eli Lilly ประกาศระงับการรับอาสาสมัครเข้ารับการทดลองเนื่องจากกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย ข่าวนี้กลบการรายงานผลประกอบการสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ทั้ง JPMorgan, Citigroup, BlackRock และ Johnson & Johnson ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI รีบาวด์เกือบ 2% หลังร่วงลงวันก่อนหน้า จากข้อมูลการนำเข้าน้ำมันของจีนที่เพิ่มขึ้นช่วยหักล้างความกังวลการใช้น้ำมันอาจฟื้นตัวช้าจากการแพร่ระบาดฯ มอง SET มีแนวโน้มเป็นลบเล็กน้อย คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ในกรอบแคบ รอติดตามหลายปัจจัย อาทิ การทยอยประกาศงบแบงก์, การชุมนุมทางการเมือง 14 ต.ค., การเจรจา Brexit และมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ แนวรับ 1265, 1260 แนวต้าน 1280+/-
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
การเก็งกำไรช่วงนี้ ไม่ควรหวังส่วนต่างราคามาก เรามอง SET เป็นเพียงขารีบาวด์ ยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (ต้องขึ้นทะลุ 1300 ก่อนจึงจะลบภาพการแกว่งไซด์เวย์ดาวน์) / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick TWPC – คาดงบ 3Q20F จะขาดทุนเล็กน้อย 9 ลบ.แต่มองเป็นจุดต่ำ มีแนวโน้มพลิกเป็นกำไรใน Q4 เป็นต้นไป เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และราคาแป้งมันสำปะหลังทั้งตลาดในปท.และตลาดส่งออกปรับตัวเพิ่มขึ้น 3-6% ใน ต.ค. คาดจะหนุนให้กำไรทั้งปีนี้โต 153% จากฐานต่ำในปีที่แล้ว และคาดกำไรจะโตอีก 77% ในปีหน้าจากปริมาณมันสำปะหลังและราคาแป้งมันสำปะหลังที่คาดจะปรับเพิ่มขึ้นอีก รวมทั้งบริษัทยังมีการขยายกำลังการผลิตต่อเนื่องในธุรกิจอาหารและผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (HVA), ระดับราคาหุ้นปัจจุบันถูกมาก คิดเป็น PBV 0.5x และ PER 10x ปีหน้า, ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 4.6 บ. / หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเกี่ยวข้องกับการเติบโตของเทคโนโลยีและกระแส “New Normal” – HANA, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีน-การเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – AP, BGC, DELTA, ILINK, KCE, KTC, MTC, PRM, RBF, SAPPE, SYNEX, TU / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, AOT, BAM, BDMS, BEM, CPALL, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BGC, PRM, SEAFCO, SMPC, SYNEX, TPIPL
ข่าวเด่น