ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -9.44 จุด วิตกข่าวระงับทดลองวัคซีนและการชุมนุมฯ


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -9.44 จุด วิตกข่าวระงับทดลองวัคซีนและการชุมนุมฯ

SET แกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1257-71 โดยค่อย ๆ ไหลลง ถูกกดดันจากข่าว Johnson & Johnson ระงับการทดลองวัคซีน COVID-19 หลังมีผู้เข้าร่วมการทดลองล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และการชุมนุมทางการเมืองมีเหตุกระทบกระทั่งกัน ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 2.66 พันลบ. และพลิก Short S50 Futures 5,974 สัญญา 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ นายกฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ คุมม็อบ
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (14 ต.ค.) ส่วนใหญ่ปรับลง 2 วันติด แม้ผลประกอบการสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดก็ตาม ถูกกดดันจากความไม่แน่นอนของมาตรการเยียวยาสหรัฐฯ รอบใหม่ หลัง “มนูชิน” รมว.คลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีจุดยืนที่แตกต่างกันอยู่ และเป็นเรื่องยากที่จะสามารถตกลงกันได้ก่อนการเลือกตั้งในช่วงต้นเดือนหน้า ข่าวนี้ยิ่งซ้ำเติมการสั่งระงับการทดลองยารักษา COVID-19 ของ Johnson & Johnson และ Eli Lilly หลังมีผู้เข้าร่วมการทดลองล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อ 2 วันติด +2.1% ปิดที่ระดับ 41.04 $/บาร์เรล คาดสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ นอกจากจะถูกกดดันจากบรรยากาศหุ้นโลกที่เป็นลบ หลังมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ มีความไม่แน่นอน และการระงับการทดลองยารักษา COVID-19 แล้ว ยังถูกกดันจากการชุมนุมภายในปท.ด้วย จนนายกฯ เพิ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม.คุมม็อบตั้งแต่เวลา 4.00 น.ของวันที่ 15 ต.ค. เป็นต้นไป คาดจะกดดันกระแสเงินทุนตปท.ไหลออกต่อเนื่อง วันนี้แนะนำติดตามสถานการณ์การชุมนุมฯ และการเจรจา Brexit แนวรับ 1260, 1254 แนวต้าน 1270, 1276 
 
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เก็งกำไรได้ / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
 
การเก็งกำไรช่วงนี้ ไม่ควรหวังส่วนต่างราคามาก, เรามอง SET เป็นเพียงขารีบาวด์ ยังไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม (ต้องขึ้นทะลุ 1300 ก่อนจึงจะลบภาพการแกว่งไซด์เวย์ดาวน์) / พอร์ตลงทุน แนะหาจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RBF – มองหุ้นกลุ่มอาหารอย่าง RBF เป็นหลุมหลบภัยที่ดีท่ามกลางการฟื้นตัวของศก.โลกเผชิญความไม่แน่นอนมากขึ้น และการชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากบ.มีความแข็งแกร่งด้านฐานลูกค้าและ R&D ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลาย, เราคาดกำไรปี 20-22F จะเติบโตเฉลี่ย23% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 11.1 บ. / หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเกี่ยวข้องเทคโนโลยีและกระแส “New Normal” – HANA, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีน-การเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – AP, BGC, DELTA, ILINK, KCE, KTC, MTC, PRM, RBF, SAPPE, SYNEX, TU / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” เน้นราคายัง Laggard แต่แนวโน้มกำไรครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวขึ้น ชอบ AEONTS, AOT, BAM, BDMS, BEM, CPALL, MTC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT*, RATCH, TVO (* กลุ่มทิสโก้เป็นที่ปรึกษาการเงินและผู้จัดจำหน่าย) / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ DELTA, HANA / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO 
 
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BGC, PRM, SEAFCO, SMPC, SYNEX, TPIP
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 15 ต.ค. 2563 เวลา : 11:22:10

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:16 pm