ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -24.93 จุด ม็อบดาวกระจายทุบหุ้นร่วงกระจุย


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -24.93 จุด ม็อบดาวกระจายทุบหุ้นร่วงกระจุย
 
SET ภาคเช้าเปิดกระโดดลงกว่า 11 จุด และไหลลงต่อเนื่องจนถึงภาคบ่าย ปิดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน กังวลการชุมนุมแบบดาวกระจาย ฉุดรั้งแนวโน้มการฟื้นตัวศก. ผสานกับข่าวพบคนต่างด้าว 2 ราย ติดเชื้อ COVID-19 ในจ.ตาก ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 310 ลบ. ยุติขาย 3 วันติด แต่ยัง Short S50 Futures 4,400 สัญญา 4 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ จับตาประชุมครม., งบแบงก์ขนาดใหญ่
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 ต.ค.) ปรับลง โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ ร่วงมากกว่า 1% จากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นทั้งในสหรัฐฯ และยุโรป โดยผู้ติดเชื้อฯ ทั่วโลกพุ่งแตะระดับ 40 ล้านคนแล้ว และการเจรจา Brexit ยังไม่คืบหน้ามากนัก นอกจากนี้ตลาดยังกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ หลังนางแนนซี เพโลซี ปธ.สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กำหนดเส้นตาย 48 ชม.เพื่อให้สภาคองเกรสมีเวลาสำหรับการผ่านร่างกม.กระตุ้นศก.ก่อนการเลือกตั้งปธน. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดทรงตัว หรือ -0.1% จากปัจจัยบวกลบที่ผสมผสาน  มอง SET ยังมีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ ถูกกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ในตปท. และการชุมนุมทางการเมืองในปท. ขณะที่เมื่อวานมูลค่าการขายชอร์ตเร่งตัวขึ้นเป็น 2.3 พันลบ. เพิ่มขึ้นจาก 1.9 พันลบ.ในวันก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นจากมูลค่าเฉลี่ยที่ 2.1 พันลบ.ในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี หาก SET ลงทดสอบแนวรับจิตวิทยาที่บริเวณ 1200 มองมีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิค จากภาวะ “Oversold” วันนี้แนะติดตามการประชุมครม.ว่าจะเห็นชอบการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญหรือไม่ (หากสามารถเปิดประชุมสภาได้อย่างเร็วสุดในสัปดาห์นี้ น่าจะช่วยลดความตึงเครียดทางการเมืองได้ในระดับหนึ่ง) และการทยอยประกาศงบแบงก์ใหญ่ (เมื่อวาน KKP ออกงบดีกว่าเราและตลาดคาด 25%, LHFG ดีกว่าตลาดคาด 28%) แนวรับ 1200, 1190 แนวต้าน 1215, 1220-22 
 
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรต้องรับความเสี่ยงได้สูง / จังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
 
SET เมื่อวานทำจุดต่ำใหม่รอบ 6 เดือน มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกลงต่อทดสอบระดับ 1200 หรือต่ำกว่า, หากดีดกลับจะมีแนวต้านไม่เกิน 1250 การเก็งกำไรต้องรับความเสี่ยงได้สูง / พอร์ตลงทุน แนะสะสมช่วงอ่อนตัวแต่ไม่ต้องรีบ
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick KCE – เราปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้น 3% และ 16% ตามลำดับ, ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”, จากความต้องการสินค้า HDI PCB ที่แข็งแกร่ง และประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น เป็นผลดีต่อมาร์จิ้น นอกจากนี้บ.ยังได้ผลเชิงบวกจากสงครามการค้าด้วย ทำให้มีการเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทาน โดยใน Q4 จะเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในอินเดีย, เป้าพื้นฐานใหม่ 39.75 บ. / หุ้นได้ประโยชน์มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเกี่ยวข้องเทคโนโลยีและกระแส “New Normal” – HANA, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นรับอานิสงส์ข่าววัคซีน-การเปิดรับนทท.แบบพิเศษ (STV) ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / หุ้นที่ประเมินเบื้องต้นว่างบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – AP, ILINK, KCE, KTC, MTC, PRM, RBF, SAPPE, SYNEX, TU / ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้น – KSL, TVO / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวโดดเด่นและ Upside > 20% ชอบ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และทยอยเก็บหุ้นปันผลที่คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, TVO / หุ้นกลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ HANA, KCE / หุ้นฟื้นฟูศก.-สังคม 4 แสนลบ.และลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน – CK, SEAFCO 
 
• หุ้นเด่น ต.ค. (Smart Tactics) BGC, PRM, SEAFCO, SMPC, SYNEX, TPIPL 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ต.ค. 2563 เวลา : 10:54:38

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:34 am