ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 2 พ.ย.ราคาน้ำมันดิบปรับลด
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังยุโรปประกาศล็อคดาวน์อีกครั้ง กดดันความต้องการใช้น้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ต.ค. 63 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 35.79 -0.38
เบรนท์ 37.46 -0.19
ดูไบ 37.27 -1.14
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 30 ต.ค. 63 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 42.22 -0.76
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 39.35 -0.58
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 40.46 -0.87
น้ำมันเตา (3.5% S) 39.19 -1.65
- ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังหลายประเทศในยุโรปประกาศล็อคดาวน์อีกครั้ง เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กดดันความต้องการใช้น้ำมัน อาทิเช่น เยอรมันประกาศล็อคดาวน์ระหว่างวันที่ 2-30 พ.ย. นอกจากนั้นฝรั่งเศสซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ราว 36,000 คนต่อวัน ได้ประกาศให้ประชาชนหยุดอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาด ส่วนสหรัฐฯ ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อใหม่สูงเป็นประวัติการณ์ แตะระดับ 100,000 คนต่อวัน
- Baker Hughes รายงานจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 9 หลุมแตะระดับ 296 หลุม ณ สัปดาห์สิ้นสุด 30 ต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 7 สัปดาห์ต่อเนื่องกัน โดยในเดือน ต.ค.มีการเพิ่มขึ้นถึง 35 หลุม แต่อย่างไรก็ตามยังต่ำกว่า 64% ในช่วงเวลาเดียวกันของปี 62
+ ซาอุดิอาระเบียและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักในกลุ่มโอเปกพลัส มีความเห็นร่วมกันที่จะรักษาระดับการลดกำลังการผลิตที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อเนื่องจนถึงปี 64 จากเดิมสิ้นสุดปี 63 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันยังคงถูกกดดันจากการล็อคดาวน์อีกครั้งในยุโรปและการผลิตของลิเบียที่เพิ่มมากขึ้น โดยจะตกลงกันในการประชุมโอเปกวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 63
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบาคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลง 15.77% ณ สัปดาห์สิ้นสุด 28 ต.ค. เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ประกอบกับความต้องการใช้น้ำมันในเกาหลีใต้และอินเดียเริ่มฟื้นตัว
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในออสเตรเลียขนาด 146,000 บาร์เรลต่อวัน ประกาศหยุดดำเนินการและเปลี่ยนเป็นเทอร์มินัลเพื่อนำเข้าน้ำมัน
ข่าวเด่น