สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +41.88 จุด “ไบเดน” ส่อแววเป็นผู้ชนะ ดีต่อหุ้น EM
SET เปิดกระโดดขึ้นกว่า 12 จุด และแกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1232-66 ขานรับผลเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยคะแนนคณะผู้เลือกตั้งสหรัฐฯ “ไบเดน” มีคะแนนนำ “ทรัมป์” 264 : 214 ซึ่งมองเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น EM ต่างชาติขายสุทธิ 122 ลบ. 8 วันติด แต่ Long S50 Futures สูงถึง 24,680 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : พักฐานในกรอบ ติดตามการเมืองและการแพร่ระบาดฯ
หุ้นโลกเมื่อวาน (5 พ.ย.) พุ่งขึ้นแรง ขานรับคาดการณ์ “ไบเดน” จะชนะเลือกตั้ง แต่ไม่มีพรรคใดครองอำนาจเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรส ทำให้มีการถ่วงดุลอำนาจ และนโยบายขึ้นภาษีนิติบุคคลของไบเดนน่าจะถูกขัดขวาง แต่ขณะเดียวกันนโยบายตปท.ที่ประนีประนอมกว่าทรัมป์ คาดจะเป็นผลดีต่อศก.โลก ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI พลิกร่วง 0.9% ปิดที่ 38.79 $/บาร์เรล กังวลการแพร่ระบาด COVID-19 ทั่วโลก และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในยุโรปจะกระทบอุปสงค์น้ำมัน มอง SET มีแนวโน้มแกว่งพักฐานในกรอบจำกัด หลังเมื่อวานร้อนแรง พุ่งขึ้นมากกว่า 40 จุด ขานรับผลการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ที่คาดว่าจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น EM อย่างไรก็ดี สถานการณ์แพร่ระบาด COVID-19 ที่น่าเป็นห่วงมากขึ้น โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อฯ ใหม่ทั่วโลกหลัก 5 แสนคน/วัน และผู้เสียชีวิตใหม่เฉลี่ย 7 วันที่ผ่านมาพุ่งทำสถิติใหม่มากกว่าระดับ 7 พันคน/วัน อาจเป็นปัญหาต่อศก.ในระยะถัดไป นอกจากนี้ การเมืองในปท.ยังไม่คลี่คลายจากการนัดชุมนุมใหญ่วันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. ต้องรอสภาพิจารณาญัตติร่างแก้ไขรธน. 17 พ.ย. สำหรับผลประชุม FED เมื่อวานไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินตามคาด แต่ผลประชุม BOE เพิ่มวงเงิน QE อีก 1.5 แสนล้านปอนด์มากกว่าตลาดคาดที่ 1 แสนล้านปอนด์ แนวรับ 1255-60 แนวต้าน 1275-80 อนึ่ง คาด GL จะติด Cash Balance เย็นนี้ / SICT, SMT, TKN19C2102A, YGG ติดวันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไรในกรอบ 1240-80 / หาจังหวะสะสมเพื่อการลงทุน
ใช้กรอบ SET 1240-80 เก็งกำไรระยะสั้น หาก SET ปรับขึ้นต่อ แนะหาจังหวะขายล็อกกำไร รอย่อตัวซื้อคืน มอง Upside ระยะสั้นจำกัดที่บริเวณ 1280 / พอร์ตลงทุน ยังแนะหาจังหวะสะสม-ถือลงทุนข้ามปี เล็งเป้า 1300-1350
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick WHA – แม้ธุรกิจนิคมฯ ได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดการเดินทางจากตปท. ทำให้ยอดขายที่ดินไม่เข้าเป้า แต่เชื่อว่าได้สะท้อนในราคาหุ้นปีนี้ที่ร่วง -35% ไปมากแล้ว vs -20%, มองไปข้างหน้า คาดจะได้ประโยชน์จากการมีวัคซีน, การย้ายฐานผลิตจากจีน และการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า, เป้าพื้นฐาน 3.7 บ. / หุ้นเข้าข่าย “Short Covering” - PTT, PTTEP, GULF, GLOBAL, TRUE, TMB / หุ้นได้ประโยชน์ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเทคโนโลยีอิงกระแส “New Normal” – HANA, KCE, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นที่คาดงบ 3Q20F จะดีทั้ง YoY และ QoQ – AP, BCH, CPF, JMT, KCE, MTC, PRM, RBF, RS, SAPPE, SYNEX, TACC, TKN, TTW / ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้น – KSL, TVO / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น มี Upside > 20% ชอบ AEONTS, BAM, BDMS, BEM, CPALL, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผล คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO / กลุ่มที่มักแข็งกว่าตลาดในช่วงการเมืองร้อน – COMM ชอบ BJC, CPALL, HMPRO, RS / FOOD ชอบ CPF, GFPT, TVO / ETRON ชอบ HANA, KCE
• หุ้นเด่น พ.ย. (Smart Tactics) BAM, MTC, RBF, SAPPE, SYNEX, TPIPL
ข่าวเด่น