สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +17.84 จุด น้ำมันสูงสุด 8 เดือน หนุนหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯ
SET แกว่งแดนบวกในกรอบ 1416-33 โดยค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นและปิดระดับสูงสุดของวัน ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันที่แตะสูงสุดใหม่รอบ 8 เดือน รวมทั้งมีแรงเก็งกำไรหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 550 ลบ. ยุติซื้อ 4 วัน และพลิก Long S50 Futures 5,237 สัญญา ยุติ Short 4 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์-พักฐาน วัคซีนของ AstraZeneca ต้องทดลองเพิ่ม!
หุ้นโลกเมื่อวาน (26 พ.ย.) ซื้อขายเงียบเหงา เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันนี้ ขณะที่หุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อย นลท.กังวลผลกระทบทางศก.เนื่องจากเยอรมันขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมฯ ไปจนถึง 20 ธ.ค. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ไม่มีการซื้อขาย แต่น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงเกือบ 2% จับตาการประชุม OPEC+ ในต้นสัปดาห์หน้า มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-พักฐาน ระหว่างวันยังเหวี่ยงตัวสูง คาดจะถูกกดดันจากข่าววัคซีนของ AstraZeneca ต้องใช้เวลาทดลองเพิ่ม! ซึ่งไทยทำข้อตกลงกับวัคซีนตัวนี้ นอกจากนี้ SET ขึ้นมาแรง 4 สัปดาห์ติด ทำให้ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นเริ่มตึงตัวอีกครั้ง และเริ่มมีสัญญาณเชิงลบทางปัจจัยเทคนิค (Bearish Divergence) ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในระยะสั้น แนวรับ 1420-25 แนวต้าน 1450-55 อนึ่ง คาด PSL จะติด Cash Balance เย็นนี้ / NRF ติดวันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้ง หาจังหวะขายทำรอบ-ย่อตัวซื้อคืน, พอร์ตลงทุน ถือ
มอง Upside ตลาดระยะสั้นเริ่มจำกัด, การเทรดดิ้ง-เก็งกำไร ขึ้นเน้นหาจังหวะขาย รออ่อนตัวซื้อคืน แนะเลือกหุ้นเป็นรายตัวใน SET100 ที่ราคายังฟื้นตัวช้าและพื้นฐานยังมี Upside / พอร์ตลงทุน แนะถือ “Let Profits Run”
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick SCGP – เราเริ่มต้นวิเคราะห์หุ้น SCGP ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”, เป้าพื้นฐาน 47 บ., บ.ประกอบธุรกิจให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร และธุรกิจเยื่อและกระดาษ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และมีศักยภาพการเติบโตไปพร้อมกับตลาดอาเซียน ซึ่งมีจำนวนประชากรและกำลังซื้อเพิ่มขึ้น, มีความเจริญและรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีการพัฒนาของธุรกิจ e-commerce, เราคาดกำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 19% โดดเด่นกว่าค่าเฉลี่ยของผู้ประกอบการบรรจุภัณฑ์ทั่วโลกที่เติบโต 7% / หุ้นใหญ่ที่ Underperform + Underowned + Undervalued BANK - BBL, KKP / ENERG – EGCO, GPSC, RATCH / PROP - CPN, LH / TRANS - BEM, BTS / อื่นๆ - BDMS / หุ้นที่กำไรดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น – เด่น ACE, FPT, GUNKUL, III, JMART, SF, TFG / หุ้นคาดเข้า SET50 - SET100 ชอบ BAM - DCC / STGT เข้า FTSE มีผล 18 ธ.ค. / ผลทบทวนดัชนี MSCI จะบังคับใช้ราคาปิด 30 พ.ย. Global Standard เข้า 2 ตัว - DELTA, STGT ออก 2 ตัว - TMB, IRPC / Small Cap เข้า 9 ตัว - BPP, ICHI, IRPC, JMART, M, RBF, TFG, TISCO, VGI ออก 2 ตัว – STPI, THAI / หุ้นรับข่าววัคซีน ชอบ AOT, BDMS, CENTEL, SPA / บาทแข็งค่าสุดในรอบ 10 เดือน เป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร/ หุ้นได้ประโยชน์ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเทคโนโลยีอิงกระแส “New Normal” – HANA, KCE, COM7, ILINK, SYNEX / ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับขึ้น – KSL, TVO / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, BEM, CPALL, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผล คาด Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO
•หุ้นเด่น พ.ย. (Smart Tactics) BAM, MTC, RBF, SAPPE, SYNEX, TPIPL
ข่าวเด่น