สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +3.75 จุด ชน 1500 แต่เริ่มแกว่งจากแรงขายทำกำไร
SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1474-1503 โดยภาคเช้าขึ้นทดสอบระดับ 1500 จากความหวังวัคซีนและความพยายามในการผลักดันมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ แต่ยังไม่ผ่าน 1500 เผชิญแรงขายทำกำไรก่อนช่วงหยุดยาว ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 2.57 พันลบ. ยุติซื้อ 5 วันติด และ Short S50 Futures 4,300 สัญญา เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อิงบวกเล็กน้อย รอติดตามหลายปัจจัยในสัปดาห์นี้
หุ้นโลกวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ส่วนใหญ่ปรับลง แม้ดัชนี DJ ปิดบวก แต่ดัชนี S&P500 ปรับลงเล็กน้อย 3 วันติด และหุ้นยุโรปปรับตัวลงเช่นกัน จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นศก.รอบใหม่ของสหรัฐฯ และความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางศก.จากการแพร่ระบาด COVID-19 และความไม่แน่นอน Brexit ที่ยังไม่สามารถตกลงร่วมกันได้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 21 เซนต์ แต่ช่วงที่ไทยหยุดยาวโดยรวมปรับขึ้นประมาณ 1$ ปิดที่ 46.57 $/บาร์เรล ซึ่งเป็นจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 9 เดือน มอง SET แกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ จากข่าวดีต่อเนื่องเกี่ยวกับวัคซีน ล่าสุด FDA สหรัฐฯ เห็นชอบใช้วัคซีนของ Pfizer และ BioNTech แล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น จะช่วยหนุนราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ซึ่งมีน้ำหนักสูงต่อตลาดหุ้นไทย โดยคิดเป็นประมาณ 1 ใน 4 ของมูลค่าตลาดรวม อย่างไรก็ดีการแข็งค่าของเงินบาท แตะระดับ 30 บ./$ เป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของศก.ไทย และมีโอกาสที่ธปท.จะออกมาตรการสกัดบาทแข็งเพิ่มเติม สัปดาห์นี้แนะนำติดตามการประชุม FED, BOE, BOJ และตัวเลข PMI ภาคผลิตและภาคบริการเบื้องต้นใน ธ.ค. ของทั่วโลก แนวรับ 1470-72 แนวต้าน 1490-95, 1503 อนึ่ง IIG, JR, MICRO ติด Cash Balance 14 ธ.ค. – 22 ม.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งระยะสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน ถือทนแกว่ง
การเทรดดิ้งระยะสั้น หาก SET เข้าใกล้กรอบบนที่ 1500 เป็นจังหวะขายทำรอบ รออ่อนตัวซื้อคืน โดยใช้ SET บริเวณ1440-50 เป็นจุด Stop Loss / พอร์ตลงทุน ยังแนะนำถือทนแกว่ง-ลงทุนข้ามปี
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BEM – จำนวนผู้โดยสารและรถใช้ทางด่วนยังฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเปิดภาคเรียนและไม่มีการสั่งปิดจากการชุมนุมทางการเมือง ขณะที่การเปิดประเทศรับนทท.ตปท.ในอนาคต หลังมีวัคซีนจะเป็นปัจจัยหนุนให้เติบโตได้สูงอีกครั้ง ผสานกับการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี คาดจะหนุนกำไรปีหน้ากลับมาเติบโต 59% ดีกว่า SET โดยรวมที่คาดโตประมาณ 30% ต้นๆ, มองราคาหุ้นยังขึ้นช้าอยู่เมื่อเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่อื่นๆ เป็นจังหวะเข้าลงทุน, เป้าพื้นฐาน 10.7 บ. / หุ้นใหญ่ที่ Underperform + Underowned + Undervalued BANK - BBL, KKP / ENERG – EGCO, GPSC, RATCH / PROP - CPN, LH / TRANS - BEM, BTS / อื่นๆ - BDMS / หุ้นคาดเข้า SET50 - SET100 ชอบ BAM – DCC / STGT เข้า FTSE มีผล 18 ธ.ค. / บาทแข็งค่าสุดรอบ 10 เดือน เป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร/ หุ้นได้ประโยชน์ “ช้อปดีมีคืน” ชอบ BJC, COM7, CRC, HMPRO / หุ้นเทคโนโลยีอิงกระแส “New Normal” – HANA, KCE, COM7, ILINK, SYNEX / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, BEM, CPALL, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผลที่ Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO
• หุ้นเด่น ธ.ค. (Smart Tactics) BAM, BJC, CPN, KKP, RATCH, SCC, STEC, TVO
ข่าวเด่น