สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -8.37 จุด นลท.ระมัดระวังสถานการณ์ COVID-19
SET แกว่งผันผวน +/- ในกรอบ 1414-40 นลท.ยังระมัดระวังต่อสถานการณ์ COVID-19 ทั้งในและตปท. ขณะที่ผลประชุม กนง.คงดบ.ที่ 0.50% ตามคาด และการส่งออกไทย พ.ย. หดตัว -3.65% ใกล้เคียงตลาดคาดที่ -3.1% ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 706 ลบ. ยุติซื้อ 2 วันติด และพลิก Short S50 Futures 8,399 สัญญา ยุติ Long 3 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ฟื้นตัว ทรัมป์ต้องการกระตุ้นศก.เพิ่ม, น้ำมันดีดกลับ 2%
หุ้นโลกเมื่อวาน (23 ธ.ค.) ส่วนใหญ่ปิดบวก โดยเฉพาะหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% หลังมีรายงานข่าวว่าอังกฤษและสหภาพยุโรปใกล้จะบรรลุข้อตกลง Brexit ทางการค้าร่วมกันแล้ว นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ต้องการจะกระตุ้นศก.เพิ่ม โดยต้องการจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ชาวอเมริกันเพิ่มขึ้นจากคนละ 600$ เป็น 2,000$ ทำให้ยังไม่ลงนามในมาตรการกระตุ้นศก. 9 แสนล้าน$ ที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดกลับ 2% หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 562,000 บาร์เรล มอง SET มีแนวโน้มฟื้นตัวในกรอบจำกัด จากความหวัง Brexit ใกล้บรรลุข้อตกลง และมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ รอบใหม่ที่น่าจะออกได้ก่อนสิ้นปีนี้ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น คาดจะส่งผลดีต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี อย่างไรก็ดี การซื้อขายอาจไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อนหน้า เนื่องจากวันนี้ (24 ธ.ค.) หุ้นยุโรปและหุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะเปิดทำการแค่ครึ่งวัน และจะหยุดต่อเนื่องในวันคริสต์มาสพรุ่งนี้ ซึ่งจะรวมถึงหุ้นเอเชียอย่าง อินเดีย, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย,ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ด้วย คาดนลท.ชะลอการลงทุน ทำให้ความเคลื่อนไหวของตลาดไม่มีทิศทางที่ชัดเจนในระยะสั้น วันนี้ติดตามการประชุม ศบค. พิจารณามาตรการคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ในปท. แนวรับ 1410-15, 1400+/- แนวต้าน 1440-45 อนึ่ง COTTO ติด Cash Balance 24 ธ.ค. – 13 ม.ค. จากมาตรการ Trading Alert
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้น Wait&See / พอร์ตลงทุน หาจังหวะสะสมเพิ่ม
SET ระยะสั้นจะดูดีขึ้นอย่างน้อยต้องกลับมายืนเหนือ 1440 ให้ได้ก่อนจึงจะมีสัญญาณเชิงบวก มิฉะนั้น ยังแนะนำ Wait&See แต่สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรรายตัว เข้า-ออกไว / พอร์ตลงทุน หาจังหวะสะสมเพิ่ม
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PRM – ประกาศเข้าซื้อหุ้น 100% ในบ.ไทยออยล์ มารีนจาก TOP มูลค่าเบื้องต้นราว 346 ลบ. ซึ่งจะใช้กระแสเงินสดภายในกิจการและการกู้ยืม โดยดีลนี้คาดจะเสร็จสมบูรณ์ มิ.ย.ปีหน้า, เรามีมุมมองบวกต่อดีลนี้ เพราะจะช่วยสร้างความมั่นคง ทั้งในแง่ของกองเรือที่เพิ่มขึ้นเป็น 58 ลำจากปัจจุบันที่ 40 ลำ และในแง่ของรายได้ เนื่องจากมีสัญญาระยะยาว 5-10 ปีกับทาง TOP ขณะที่ธุรกิจเรือ FSU ยังแข็งแกร่ง ให้บริการเต็ม 100%, เป้าพื้นฐาน 11.5 บ. / หุ้นได้ประโยชน์จาก COVID-19 ระบาดรอบใหม่ คาดจะ Outperform ตลาดในระยะสั้น - STGT, STA, HANA, KCE, SIS, SYNEX / หุ้นเข้า SET50 - SET100 ชอบ BAM – MBK / หุ้นเก็ง Window Dressing – Big Cap ชอบ BJC, BGRIM, GULF, LH / Mid-to-Small Cap ชอบ AEONTS, CPNREIT, PTG, SEAFCO / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นการบริโภคต่อเนื่องถึง Q1 ชอบ BJC, BGC, CBG / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผลที่ Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, KKP, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO
• หุ้นเด่น ธ.ค. (Smart Tactics) BAM, BJC, CPN, KKP, RATCH, SCC, STEC, TVO
ข่าวเด่น