สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -14.29 จุด ขายทำกำไรหุ้นไฟฟ้า, DELTA หลังขึ้นแรง
SET ผันผวน +/- ในกรอบ 1485-1514 หลุดระดับ 1500 จากแรงขายทำกำไรหุ้นโรงไฟฟ้าหลังราคาปรับตัวขึ้นเร็วในช่วง 2-3 วันก่อนหน้านี้ รวมทั้งหุ้น DELTA กดดันตลาด หลังติด Cash Balance 6-26 ม.ค. (มีผลต่อ SET -9.6 จุด) ต่างชาติขายสุทธิ 1.57 พันลบ. 2 วันติด และ Short S50 Futures 2 วันติด และหนักขึ้นที่ 15,747 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : รีบาวด์ คาดหวังเงินทุนไหลเข้า หลังเดโมแครตครองสภาบน
หุ้นโลกเมื่อวาน (6 ม.ค.) ปรับขึ้นแรง ส่วนใหญ่บวกมากกว่า +1% คาดหวังศก.ทั่วโลกฟื้นตัวได้แข็งแกร่งในปีนี้ หลังสหภาพยุโรปอนุมัติใช้วัคซีนของ Moderna และประเมินมาตรการกระตุ้นศก.ของสหรัฐฯ จะมากขึ้น หลังพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มสูงจะชนะการเลือกตั้งวุฒิสภารอบ 2 ในรัฐจอร์เจียทั้ง 2 ที่นั่ง ส่งผลให้พรรคเดโมแครตจะครองทั้งทำเนียบขาว สภาบน และสภาล่าง หรือที่เราเรียกว่า “Blue Wave” ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI +70 เซนต์ ยืน 50$/บาร์เรล ครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.พ. ปีที่แล้ว อานิสงส์ต่อเนื่องจากซาอุฯ อาสาลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้น ก.พ. นี้ และสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง 4 สัปดาห์ติด และมากกว่าตลาดคาด (-8 ล้านบาร์เรล vs คาด -2 ล้านบาร์เรล) มอง SET มีแนวโน้มรีบาวด์ กลับมายืนเหนือ 1500 อีกครั้ง คาดหวังเงินทุนไหลเข้าหุ้น EM หลังการเมืองสหรัฐฯ เกิดกรณี “Blue Wave” และเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า มองหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี และกลุ่มแบงก์จะเป็นเป้าหมายหลักของกระแสเงินทุนไหลเข้า แนวรับ 1485 แนวต้าน 1515-20, 1540
กลยุทธ์การลงทุน : SET > 1500 แนะหมุนรอบเร็วขึ้น ไม่หวังส่วนต่างราคามาก
เทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น ยังแนะกลยุทธ์ ลงซื้อ-ขึ้นขาย โดยเฉพาะระดับ SET ที่มากกว่า 1500 ขึ้นไป ควรหมุนรอบเร็วขึ้น ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน ถือทนแกว่ง และเริ่มเน้นขายมากกว่าซื้อที่ SET 1550+/-
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BBL – Bond Yield โลกที่ปรับตัวขึ้น 2 วันติด (10Y US Bond Yield แตะระดับ 1.03%) คาดจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์, BBL เป็น 1 ในหุ้นกลุ่มแบงก์ที่เราชอบมากที่สุดจากงบดุลที่แข็งแกร่ง (Coverage Ratio 172%) และมีความเสี่ยง NPL น้อยกว่าแบงก์ขนาดใหญ่อื่นๆ เนื่องจาก BBL เน้นสินเชื่อภาคธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคงกว่าสินเชื่อ SME และสินเชื่อรายย่อย, ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นต่ำ PER ปีนี้ 7.5 เท่า PBV 0.5 เท่า, เป้าพื้นฐาน 145 บ. / 5 หุ้นเด่นจากผลสำรวจ IAA – ADVANC, BDMS, CPALL, KBANK, PTTGC / หุ้นได้ประโยชน์จาก COVID-19 ระบาดรอบใหม่ คาดจะ Outperform ตลาดในระยะสั้น - STGT, STA, HANA, KCE, SIS, SYNEX, CBG, ICHI, RBF ขณะที่หุ้นท่องเที่ยว ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และขนส่งออกถูกกดดันจากมาตรการคุมระบาดที่เข้มงวดขึ้น / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นการบริโภคต่อเนื่องถึง Q1 ชอบ BJC, BGC, CBG / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น ชอบ BAM, BBL, BDMS, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผลที่ Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, KKP, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO
ข่าวเด่น