สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -2.21 จุด แรงขายทำกำไรช่วงบ่ายกดดันตลาด
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1510-29 มีแรงซื้อหุ้นแบงก์โดดเด่น หลัง KBANK เผยงบดีกว่าคาด และคาดกลุ่มแบงก์ได้ประโยชน์หากตลท.ใช้เกณฑ์ Free Float Adj. Market Cap. ในการคำนวณดัชนี ขณะที่หุ้น Free Float ต่ำเผชิญแรงขายต่อเนื่อง ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 234 ลบ. ยุติขาย 4 วันติด และ Long S50 Futures 2,497 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ ปัจจัย +/- คละเคล้า, ภาพรวมงบแบงก์แย่กว่าคาด
หุ้นโลกเมื่อวาน (21 ม.ค.) ปิด +/- ผสมผสาน หุ้นยุโรปปรับตัวลงเล็กน้อย หลังที่ประชุม BOJ, ECB คงนโยบายการเงินตามคาด แต่ศก.ยูโรโซนช่วงปลายปีที่แล้วเสี่ยงหดตัวจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ ด้านหุ้นสหรัฐฯ ปิดทรงตัว ดัชนี DJ อ่อนลงเล็กน้อย แต่ดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ ปรับขึ้นเล็กน้อย ปิดระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ คาดหวังรัฐบาล “ไบเดน” จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก. ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนลง 18 เซนต์ หรือ -0.3% นลท.จับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ที่จะเปิดเผยในวันนี้ มอง SET แกว่งไซด์เวย์ในกรอบจำกัด ปัจจัย +/- คละเคล้า คาดนลท.จะรอดูการทำงานของปธน.ไบเดนเป็นสำคัญหลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ท่ามกลางระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยที่ตึงตัวอยู่ สำหรับภาพรวมงบแบงก์แย่กว่าเราคาด แต่แนวโน้มกำไรปีนี้คาดฟื้นตัวแรง +25% จากศก.ฟื้นตัวและภาระการตั้งสำรองฯ ที่ลดลง ขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ในปท.ดีขึ้น ส่งผลให้ กทม.ประกาศผ่อนปรน 13 สถานที่เปิดให้บริการอีกครั้ง แนะติดตามตัวเลขส่งออกไทยใน ธ.ค. และ PMI เบื้องต้นภาคผลิตและภาคบริการของทั่วโลกใน ม.ค. แนวรับ 1510, 1500+/- แนวต้าน 1530 อนึ่ง คาด TKN จะติด Cash Balance เย็นนี้ / DELT13C2104A, IIG, JR, MICRO จะติดถึงวันนี้เป็นวันสุดท้าย (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้ง ลงซื้อ-ขึ้นขาย, พอร์ตลงทุน SET >= 1550 ทยอยขาย
แนะนำใช้กรอบ SET 1500-1550 ในการเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย เน้นหุ้นงบดี มีสตอรี่หนุน / พอร์ตลงทุน นลท.ที่ขายล็อกกำไรไปบางส่วนแถว 1550 ยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อคืน มอง SET ยังแกว่งตัวได้อีกในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick DCC – แม้เราปรับคาดการณ์กำไร 4Q20F เป็น 358 ลบ. ลดลงจากเดิมที่ 372 ลบ. แต่ยังถือว่าโตดีมาก +50% YoY แต่ -13% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล, คาดจะจ่ายเงินปันผลสำหรับ Q4 ที่ 0.044 บ. คิดเป็น Div. Yield ในไตรมาสนี้ที่ 1.9% สำหรับ Div. Yield ในปีนี้และปีหน้า คาดยังอยู่สูงกว่าระดับ 7% ต่อปี, ปรับประมาณการกำไรปี 2020-22Fลงเล็กน้อย 1-3% จาก TISCO ESU ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงจาก +3.4% เป็น +2.0%, เป้าพื้นฐานใหม่ 3.14 บ. / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ BGC, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่มีสตอรี่หนุนเฉพาะตัว – EA, GPSC, SCGP, SYNEX / หุ้นปันผลสูง คาด Div. Yield งวดนี้ > 4% แนะนำ AP, KKP, MC, NYT, PYLON, QH, ROJNA, SCB, SCCC, TASCO, TU / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นที่น่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี และราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, TWPC, WHA
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO
ข่าวเด่น