สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -15.63 จุด หลุด 1500 แรงขายปรับพอร์ต ทั้งไทย-เทศ
SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1494-1518 ปรับตัวลงปิดต่ำกว่าระดับ 1500 ครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ จากแรงขายปรับพอร์ตของนลท.สถาบันไทยและตปท.จาก 1) เกณฑ์ Free Float ใหม่ และ 2) หุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาด ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.05 พันลบ.และพลิก Short S50 Futures 1,274 สัญญา ยุติ Long 2 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ รอประชุม ศบค., FED, ประกาศงบ
หุ้นโลกวันศุกร์ (22 ม.ค.) ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ถูกกดดันจากข้อมูลศก.เดือน ม.ค. ที่อ่อนแอของยูโรโซน (PMI โดยรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการลดลงจาก 49.1 จุดใน ธ.ค. สู่ระดับ 47.5 จุดใน ม.ค. ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน) และการใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด (ซึ่งรวมถึงการควบคุมการเดินทางท่องเที่ยว) ส่งผลกระทบต่อธุรกิจจำนวนมากในยุโรป ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากที่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ ตลาดจับตาการออกมาตรการกระตุ้นศก.ของปธน.ไบเดน ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนลงอีก 86 เซนต์ หรือ -1.6% หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.4 ล้านบาร์เรล สวนทางตลาดคาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ขาดปัจจัยใหม่ การที่ SET ปิดต่ำกว่าระดับ 1500 จุด ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดี คาดนลท.จะรอดูผลการประชุม FED 26-27 ม.ค. และการทยอยประกาศผลประกอบการ วันนี้แนะนำติดตามการประชุมศบค.ชุดใหญ่ หารือผ่อนคลายมาตรการควบคุมฯ หรือไม่ แนวรับ 1485-90 แนวต้าน 1505-10 อนึ่ง TKN ติด Cash Balance 25 ม.ค. – 5 มี.ค. / DELT13C2104A, IIG, JR, MICRO ไม่ติด Cash Balance แล้ว กลับมาซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก
กลยุทธ์การลงทุน : ชะลอการลงทุน รอ SET กลับมายืนเหนือ 1500 ให้ได้ก่อน
SET เมื่อวันศุกร์ปิดต่ำกว่าระดับ 1500 แนะชะลอการเก็งกำไร รอประเมินสถานการณ์ใหม่ หรืออย่างน้อยควรรอ SET กลับมายืนเหนือ 1500 ให้ได้ก่อน / พอร์ตลงทุน ยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อคืน มอง SET ยังแกว่งตัวได้อีกในระยะสั้น
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RS – เราปรับประมาณการกำไรปี 21-22F ขึ้น 12% และ 23% ตามลำดับ เป็นโต 32% และ 19% ตามลำดับ จากธุรกิจ Commerce เติบโตและมาร์จิ้นดีกว่าคาดเดิม รวมทั้งล่าสุด การประกาศเข้าถือหุ้น 35% ในบริษัทเชฎฐ์ เอเชีย มูลค่า 920 ลบ. ซึ่งเป็นบริษัทประกอบธุรกิจติดตามชำระหนี้และปล่อยสินเชื่อรายย่อย คาดจะช่วยต่อยอดธุรกิจและช่วยหนุนกำไรปี 21-22F เพิ่มขึ้น 70-116 ลบ., ปรับเป้าพื้นฐานใหม่ขึ้นจาก 21 บ. เป็น 25 บ. ยังแนะนำ “ซื้อ” / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ BGC, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่มีสตอรี่หนุนเฉพาะตัว – EA, GPSC, SCGP, SYNEX / หุ้นปันผลสูง คาด Div. Yield งวดนี้ > 4% แนะนำ AP, KKP, MC, NYT, PYLON, QH, ROJNA, SCB, SCCC, TASCO, TU / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นที่น่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี และราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, TWPC, WHA
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO
ข่าวเด่น