ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +3.74 จุด กระตุกขึ้นปิดเหนือ 1500 แต่ไร้ปัจจัยใหม่


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +3.74 จุด กระตุกขึ้นปิดเหนือ 1500 แต่ไร้ปัจจัยใหม่

SET แกว่ง +/- ในกรอบแคบ 1491-1505 ตลาดขาดปัจจัยชี้นำใหม่ ท่ามกลางระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยที่ตึงตัว นลท.รอติดตามผลการประชุม FED 26-27 ม.ค. และการทยอยประกาศผลประกอบการของหุ้น Real Sector ต่างชาติขายสุทธิ 350 ลบ. 6 วันในรอบ 7 วันทำการ แต่พลิก Long S50 Futures 4,069 สัญญา 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ รอผลประชุม FED, การประกาศงบหุ้น Real Sector
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (25 ม.ค.) ปิดแตกต่างกัน โดยหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับลงมากกว่า 1% กังวลศก.ฟื้นตัวช้า หลังเยอรมันเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจแย่กว่าคาด ลดลงสู่ 90.1 จุดใน ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ผลกระทบจากการใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดฯ ที่เข้มงวด และความล่าช้าในการฉีดวัคซีน ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ปรับขึ้น เก็งหุ้นเทคโนโลยีจะประกาศงบดี และยังทนทานต่อ COVID-19 ได้ดี ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดกลับ 50 เซนต์ หรือ +1% ปิดที่ 52.77 $/บาร์เรล คาดหวังเชิงบวกต่อแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯ และมีรายงานข่าวว่านับตั้งแต่ต้นปี กลุ่ม OPEC+ ปฏิบัติตามคำสัญญาลดกำลังการผลิตเฉลี่ยแล้ว 85% มอง SET ยังมีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ตลาดขาดปัจจัยใหม่ คาดนลท.ส่วนใหญ่จะชะลอการลงทุน เพื่อรอดูผลการประชุม FED 26-27 ม.ค. และการทยอยประกาศผลประกอบการของหุ้น Real Sector ในสัปดาห์นี้ อาทิ DCC, SCGP, SCC, PTTEP, DTAC ขณะที่การตรวจหาโรคเชิงรุก พบผู้ติดเชื้อฯ ในจ.สมุทรสาครสูงถึง 914 คน เป็นคนไทย 119 คน และต่างด้าว 795 คน อาจถ่วงบรรยากาศการลงทุนด้วย วันนี้แนะนำติดตามการประชุมครม. คาดหารือมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติม (อนุมัติโครงการเพิ่มเติมภายใต้พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านลบ., มาตรการด้านภาษีเพื่อลดภาระปชช.และผู้ประกอบการ เช่น ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, ค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย และการขยายเวลายื่นแบบเสียภาษี รวมทั้งมาตรการเยียวยาอื่น ๆ) และ IMF จะทบทวนตัวเลขการเติบโตศก.โลกจากปัจจุบันที่คาด -4.4% ในปี 20F และ +5.2% ในปี 21F แนวรับ 1485-90 แนวต้าน 1505-10 
 
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไร-เทรดดิ้งเป็นรายตัว
 
แม้ SET เมื่อวานกลับมาปิดเหนือ 1500 ได้ แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง แนะรอดูอาการก่อน, นลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว / พอร์ตลงทุน ยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อคืน มอง SET ยังแกว่งตัวได้อีกในระยะสั้น
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BDMS – คาดกำไรจากการดำเนินงานปีนี้จะ +29% vs ปี 20F ที่คาดหดตัว 33% จากการฟื้นตัวของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ, การเพิ่มสัดส่วนผู้ป่วยประกัน รวมทั้งการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง, เป็น 1 ในหุ้น 5 อันดับแรกที่คาดจะมีน้ำหนักในดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นหากตลท.ใช้เกณฑ์ Free Float Adj. Market Cap., เป้าพื้นฐาน 25 บ. / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่มีสตอรี่หนุนเฉพาะตัว – EA, GPSC, SCGP, SYNEX / หุ้นปันผลสูง คาด Div. Yield งวดนี้ > 4% แนะนำ AP, KKP, MC, NYT, PYLON, QH, ROJNA, SCB, SCCC, TASCO, TU / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นที่น่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี และราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, TWPC, WHA
 
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 26 ม.ค. 2564 เวลา : 11:28:35

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 4:07 am