สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -14.70 จุด หลุด 1500 (อีกครั้ง) DELTA พาตลาดเหวี่ยง
SET ผันผวนในกรอบ 1498-1515 และปรับตัวลงหลุดระดับ 1500 อีกครั้งในช่วงท้ายตลาด จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน-แบงก์-ค้าปลีก รวมทั้ง DELTA -9.7% (มีผลต่อ SET -5.9 จุด) ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 16 ก.พ. ต่างชาติขายสุทธิหนัก 4.86 พันลบ. 4 วันติด และ Short S50 Futures 2,873 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ปรับลง Sentiment หุ้นโลกเป็นลบ, สถาบันฯ ขายปรับพอร์ต
หุ้นโลกเมื่อวาน (27 ม.ค.) ดิ่งลงกว่า 2% ดัชนี DJ ของสหรัฐฯ ปรับลงมากกว่า 630 จุด ผิดหวังผลประกอบการที่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะหุ้น Boeing ที่ขาดทุน 5 ไตรมาสติด และทั้งปี 20 ขาดทุนมากสุดเป็นประวัติการณ์ ผลกระทบจาก COVID-19 อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดกลับ 0.5% มาปิดที่ 52.85 $/บาร์เรล หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ร่วงเกือบ 10 ล้านบาร์เรล สวนทางตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น มอง SET มีแนวโน้มปรับลงตาม Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลกที่เป็นลบ และเริ่มมีความผันผวนมากขึ้น โดย VIX Index ปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 30 จุด เป็นจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน ด้านปัจจัยในปท. ยังมีแรงขายปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่องของนลท.สถาบันทั้งในและตปท. ก่อนการเปิดจองซื้อหุ้น IPO ขนาดใหญ่สำหรับนลท.สถาบันในสัปดาห์หน้า ผสานกับหุ้น DELTA ที่มีเหวี่ยงตัวขึ้น-ลงแรงในแต่ละวันยังคงสร้างความผันผวนแก่ตลาดในระยะสั้น วันนี้ติดตามตัวเลข GDP Q4 สหรัฐฯ ครั้งแรก, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ และการประกาศงบ PTTEP แนวรับ 1490, 1480 แนวต้าน 1515, 1520
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว เน้นตั้งรับ
นลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว เน้นตั้งรับ ลงซื้อ-ขึ้นขาย และควรมีจุด Stop Loss เพื่อคุมความเสี่ยง / พอร์ตลงทุน ยังไม่ต้องรีบร้อนซื้อคืน มอง SET ยังแกว่งตัวได้อีกในระยะสั้น
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RATCH – เป็นหุ้นเชิงรับที่ดียามตลาดผันผวน เรามองมี Downside Risk จำกัด จากราคาหุ้นปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้แล้ว -5.6% YTD vs SET +3.4%, SETENERG +2.4% ขณะที่ 10Y US Bond Yield ที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง จากที่ขึ้นสูงสุดแตะ 1.17% มาอยู่ที่ 1.02% ต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ น่าจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นโรงไฟฟ้าที่มีกระแสเงินสดมั่นคง, กำไรปีนี้คาดจะเติบโตโดดเด่น +35% จากอัตราใช้กำลังผลิตโครงการหงสาสูงขึ้น และการดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการลมที่ออสเตรเลีย, Div. Yield สูงกว่า 4% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 73 บ. / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ PLANB, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่มีสตอรี่หนุนเฉพาะตัว – EA, GPSC, SCGP, SYNEX / หุ้นปันผลสูง คาด Div. Yield งวดนี้ > 4% แนะนำ AP, KKP, MC, NYT, PYLON, QH, ROJNA, SCB, SCCC, TASCO, TU / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นที่น่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี และราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, TWPC, WHA
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO
ข่าวเด่น