สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +13.63 จุด ข้อมูลศก. US แกร่ง, ความหวังใหม่วัคซีน
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1488-98 ตามหุ้นตปท. ขานรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด และความหวังใหม่วัคซีน 1 โดสของ Johnson & Johnson ซึ่งล่าสุดได้ยื่นขออนุมัติจาก FDA สหรัฐฯ แล้ว ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิเล็กน้อย 182 ลบ. ยุติขาย 10 วันติด และ Long S50 Futures 7,008 สัญญา 2 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : ซิกแซกขึ้น ลุ้นทะลุ 1500 สัญญาณบวกต่างชาติ, $ เริ่มอ่อน
หุ้นโลกวันศุกร์ (5 ก.พ.) ส่วนใหญ่ปรับขึ้น แม้ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ต่ำกว่าตลาดคาดก็ตาม เนื่องจากนลท.คาดว่าจะกดดันให้สภาคองเกรสเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก.สหรัฐฯ และนลท.ยังเชื่อมั่นต่อแนวโน้มผลประกอบการสหรัฐฯ ที่ฟื้นตัวและส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าเกี่ยวกับวัคซีน หลัง Johnson & Johnson ได้ยื่นขออนุมัติวัคซีน 1 โดสจาก FDA สหรัฐฯ แล้ว ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 5 วันติด +1.1% ปิด 56.85 $/บาร์เรล สูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปี จากความหวังว่าสหรัฐฯ จะเร่งกระตุ้นศก. ส่งผลดีต่ออุปสงค์น้ำมัน และ OPEC+ ยังรักษาระดับการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้น มีลุ้นทะลุ 1500 หลังทิศทางการลงทุนจากต่างชาติกลับมามีสัญญาณบวก โดยวันศุกร์พลิกกลับมาซื้อสุทธิเล็กน้อยครั้งแรกในรอบ 11 วัน ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เริ่มกลับมาอ่อนค่า น่าจะเป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนหุ้น EM ผสานกับความหวังทั้งแผนกระตุ้นศก.สหรัฐฯ และวัคซีนยังกระตุ้นความต้องการถือสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ อย่างไรก็ดี SET ที่สูงกว่าระดับ 1500 ต้องระวังแกว่งตัวจากแรงขายล็อกกำไรระยะสั้น เนื่องจากจะคิดเป็น Fwd. PER ปี 22F ที่สูงกว่าระดับ 17x แนวรับ 1490-92 แนวต้าน 1500, 1510-15 อนึ่ง DDD, DOD-W1, GLOCON, GLOCON-W4, NCAP ติด Cash Balance 8 ก.พ. – 19 มี.ค. / CHAYO, CHAYO-W1, NRF ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 25 ก.พ. / STA19C2104A, THCOM ไม่ติด Cash Balance แล้ว กลับมาซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย
การเก็งกำไรช่วงนี้ เหมาะสำหรับนลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง ลงซื้อ-ขึ้นขาย และควรมีจุด Stop Loss เพื่อคุมความเสี่ยง / พอร์ตลงทุน หาจังหวะซื้อคืนช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick KKP – กำไร 4Q20 ที่ 1.1 พันลบ. ต่ำกว่าเราคาด หลัก ๆ จากการตั้งสำรองฯ สูงถึง 2.08 พันลบ.เพื่อรองรับความไม่แน่นอนจาก COVID-19 ระบาดในปท.รอบ 2 ขณะที่ NPL อยู่ในเกณฑ์ดี ทรงตัวที่ 3.2% QoQ, กำไรปีนี้คาดจะกลับมาเติบโต +23% ดีกว่าเฉลี่ยอุตฯ ที่คาด +20% เนื่องจากตั้งสำรองฯ ไปมากแล้วในปีที่แล้ว และรายได้คาดฟื้นตัวดี, ปลายเดือนนี้คาดจะจ่ายปันผลราว 3 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 5.2%, เป้าพื้นฐาน 60 บ. / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ PLANB, SFLEX, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่มีสตอรี่หนุนเฉพาะตัว – EA, GPSC, SCGP, SYNEX / หุ้นปันผลสูง คาด Div. Yield งวดนี้ > 4% แนะนำ AP, KKP, MC, NYT, PYLON, QH, ROJNA, SCB, SCCC, TASCO, TU / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นที่น่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี และราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, WHA
• หุ้นเด่น ก.พ. (Smart Tactics) AP, BDMS, DCC, KCE, KKP, SCB, SCGP, STGT, TWPC
ข่าวเด่น