ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อ หลังอากาศที่หนาวเย็น กดดันกำลังการผลิตของสหรัฐฯราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 17 ก.พ. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 61.14 +1.09
เบรนท์ 64.34 +0.99
ดูไบ 62.88 +0.47
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 14 ก.พ. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 68.99 +0.12
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 66.70 -0.21
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 68.22 +0.17
น้ำมันเตา (3.5% S) 58.94 0.11
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับเพิ่มต่อ หลังยังคงได้รับแรงหนุนจากอุปทานน้ำมันดิบในสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงจากสภาพอากาศที่เย็นเฉียบพลันในรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์รวมของการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะส่งผลให้กำลังการผลิตปรับตัวลดลงราว 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และอาจยาวนานถึงสัปดาห์หน้า
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงมากกว่า 5.8 ล้านบาร์เรล สู้ระดับ 468 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงเพียง 2.4 ล้านบาร์เรล
- จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าระดับ 60 เหรียญต่อบาร์เรล กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรมีแนวโน้มที่จะผ่อนปรนการปรับลดกำลังการผลิตในเดือน เม.ย. 64 จากข้อตกลงปัจจุบันที่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ซาอุดิอาระเบียอาสาปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถึงเดือนหน้า โดยทางกลุ่มมีนัดหารืออีกครั้งในวันที่ 4 มี.ค. 64 ท่ามกลางประเด็นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในประเทศญี่ปุ่นสามารถกลับมาดำเนินการได้แล้ว หลังไฟฟ้าดับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวบริเวณจังหวัด ฟูกูชิมะ ท่ามกลางอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นในอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลจากประเทศญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 3.3 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอุปสงค์ในสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มจากสภาวะอากาศที่หนาวเย็น
ข่าวเด่น