สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -3.88 จุด ขึ้นเช้า-บ่ายลง แรงขายกำไรระยะสั้น
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1510-24 ปรับตัวขึ้นในภาคเช้า ขานรับรายงานประชุม FED ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินต่อไป แต่ภาคบ่าย SET ค่อยๆ ถอยจนพลิกปิดลบจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น รอติดตามปัจจัยการเมือง และการประกาศงบหุ้นรายตัว ต่างชาติขายสุทธิ 1.69 พันลบ. 2 วันติด แต่ Long S50 Futures 4,586 สัญญา 4 วันติด
ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งซึมลง ผิดหวังข้อมูลศก.สหรัฐฯ, กังวลการเมืองในปท.
หุ้นโลกเมื่อวาน (18 ก.พ.) ปรับตัวลงทั้งหุ้นยุโรปและหุ้นสหรัฐฯ ถูกกดดันจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรกที่เพิ่มขึ้นเป็น 861,000 ตำแหน่ง แย่กว่าตลาดคาดที่ 773,000 ตำแหน่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลง 1% ปิดที่ 60.52 $/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกันหลายวัน และอิรักส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.พ. มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซึมลง นลท.ยังระมัดระวังต่อการปรับตัวขึ้นของ 10Y US Bond Yield ซึ่งทรงตัวในระดับสูงสุดรอบ 1 ปี และกังวลต่อเงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นเร็วกว่าคาดจากการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูปัจจัยการเมืองในปท. หลังศาลรธน.รับคำร้องวินิจัยว่ารัฐสภามีอำนาจการตั้งส.ส.ร.ร่างรธน.ฉบับใหม่หรือไม่ ขณะที่กลุ่ม “Mob Fest” นัดชุมนุมหน้ารัฐสภาเย็นวันนี้ แนวรับ 1500-05 แนวต้าน 1525 อนึ่ง คาด SAK, ZMICO, ZMICO-W4 จะติด Cash Balance เย็นนี้ / IP, KCE, SMT จะติดCash Balance วันสุดท้ายถึง 19 ก.พ. / NEX, NEX-W2 ติดถึง 22 ก.พ. (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไร ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้า 1530, 1550-60 ตามลำดับ
การเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1530 และจุดสูงสุดเดิมที่ 1550-60 ตามลำดับ และใช้ SET ปิดต่ำกว่า 1500-1505 เป็นจุด Stop Loss / พอร์ตลงทุน “Let Profits Run”เน้นหาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว-ไม่ไล่ราคา
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PRM – คาดกำไร 4Q20F อยู่ที่หลัก 400 ลบ. ยังเติบโตสูง YoY แต่ทรงตัว QoQ ซึ่งเป็นระดับกำไรรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ อานิสงส์จากธุรกิจเรือ FSU มีอัตราการให้บริการเต็ม 100% จากความต้องการใช้เรือที่สูงขึ้นตามมาตรฐาน IMO2020 ขณะที่แนวโน้มกำไรปีนี้คาดจะเติบโตต่อเนื่อง +21% เนื่องจากจะมีเรือ FSU ใหม่อย่างน้อย 1 ลำเข้ามาในปีนี้ และการเข้าซื้อหุ้น 100% ในบ.ไทยออยล์ มารีน คาดจะช่วยหนุนการเติบโตในครึ่งปีหลัง, เป้าพื้นฐาน 11.5 บ. / OR เข้าดัชนี SET50 และดัชนี MSCI แบบ Fast Track มีผล 17 ก.พ. และ 26 ก.พ. ตามลำดับ / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ CBG, MTC, PRM, RS, STA, STGT, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ PLANB, SFLEX, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่ได้ประโยชน์ศก.ฟื้นตัวและภาวะดบ.ต่ำ ชอบกลุ่มการเงิน – KKP, AEONTS และหุ้นปันผลดี (คาด Div. Yield งวดนี้ > 4%) - AP, KKP, NYT, PYLON, ROJNA, SCCC / หุ้นที่ได้บรรยากาศเชิงบวกจากแนวทาง “วัคซีนพาสปอร์ต” และสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกดีขึ้น - AOT, CENTEL, MINT, SPA / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรขึ้น – BBL, KBANK, CRC, PTTGC / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, WH
• หุ้นเด่น ก.พ. (Smart Tactics) AP, BDMS, DCC, KCE, KKP, SCB, SCGP, STGT, TWPC
ข่าวเด่น