ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -10.52 จุด วิตกการเมือง และ Bond Yield ปรับขึ้นกดดัน


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -10.52 จุด วิตกการเมือง และ Bond Yield ปรับขึ้นกดดัน

SET แกว่งอยู่แดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1493-1507 ถูกกดดันจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ และ Bond Yield ปรับขึ้น ผสานกับการเมืองในปท.กลับมาอึมครึมจากการชุมนุม และการแก้ไขรธน.ที่ส่งศาลรธน.วินิจฉัย ต่างชาติขายสุทธิ 3.03 พันลบ. 3 วันติด และพลิก Short S50 Futures 11,318 สัญญา ยุติ Long 4 วัน 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ Bond Yield พุ่งกดดัน Fund Flows 
 
หุ้นโลกวันศุกร์ (19 ก.พ.) รีบาวด์ นำขึ้นโดยหุ้นฝั่งยุโรปจากการเปิดเผยข้อมูลศก.และผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แต่หุ้นสหรัฐฯ ลดช่วงบวกลง จากแรงขายล็อกกำไรระยะสั้น กังวล 10Y US Bond Yield ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.37% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 ปี ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงอีก 2.1% หลุดระดับ 60$ มาที่ 59.24$/บาร์เรล นลท.คาดว่าการผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสจะกลับคืนสู่ภาวะปกติในไม่ช้านี้ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์-ไซด์เวย์ดาวน์ การปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของ 10Y US Bond Yield เป็นลบต่อ Fund Flows ผสานกับการเมืองในปท.ไม่นิ่งจากการกลับมาชุมนุมระลอกใหม่ จับตาการพิจารณาร่างแก้ไขรธน.วาระ 2 ใน 24-25 ก.พ. และถ้อยแถลงปธ.FED ต่อสภาคองเกรส 23-24 ก.พ. คาดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินต่อไป น่าจะกดดัน Bond Yield อ่อนตัวลง และกระตุ้นการรีบาวด์ได้ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ แนวรับ 1490+/- แนวต้าน 1510 อนึ่ง SAK, ZMICO, ZMICO-W4 ติด Cash Balance 22 ก.พ. – 2 เม.ย. / IP ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 12 มี.ค. 
 
กลยุทธ์การลงทุน : เก็งกำไร ควรรอดูอาการ SET แถว 1500 ก่อน
 
การเทรดดิ้งสั้น แนะชะลอการลงทุน รอดูอาการ SET บริเวณ 1500 ก่อนว่าจะยืนอยู่หรือไม่ หากยืนไม่ได้ ควร Stop Loss หรือขายลดความเสี่ยง รอประเมินจังหวะรอบใหม่ / พอร์ตลงทุน แนะถือทนแกว่ง เน้นหาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick NYT - ประกาศกำไรปี 2020 ที่ 228 ลบ. แม้ -39% YoY แต่ดีกว่าคาดที่ 194 ลบ.จากอัตรากำไรขั้นต้นและการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากท่า C0 ดีกว่าคาด, มองกำไรปีนี้และปีหน้าฟื้นตัวต่อเนื่อง +31% และ +37% ตามลำดับ จากการส่งออกทยอยฟื้นตัวเข้าส่ระดับปกติมากขึ้นที่ประมาณ 1 ล้านคันในช่วง 2 ปีนี้, ประกาศจ่ายปันผล 20 สต./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 5.3%, เป้าพื้นฐาน 4.7 บ. / FTSE ประกาศทบทวนดัชนี มีผลราคาปิด 19 มี.ค. – ปรับขึ้นจาก Mid เป็น Large Cap. – DELTA / ปรับลงจาก Large เป็น Mid Cap. – BEM, BGRIM, BTS, EGCO, TRUE / เข้า Small Cap. – DOHOME / ออกจาก Small Cap. – BEAUTY /  OR เข้าดัชนี SET50 และดัชนี MSCI แบบ Fast Track มีผล 17 ก.พ. และ 26 ก.พ. ตามลำดับ / หุ้นที่คาดงบจะดี หุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ ชอบ PRM, RS, TVO, WHA หุ้นขนาดเล็ก ชอบ PLANB, SFLEX, SIS, TPCH, TWPC / หุ้นที่ได้ประโยชน์ศก.ฟื้นตัวและภาวะดบ.ต่ำ ชอบกลุ่มการเงิน – KKP, AEONTS และหุ้นปันผลดี (คาด Div. Yield งวดนี้ > 4%) - AP, KKP, NYT, PYLON, ROJNA, SCCC / หุ้นที่ได้บรรยากาศเชิงบวกจากแนวทาง “วัคซีนพาสปอร์ต” และสถานการณ์แพร่ระบาดทั่วโลกดีขึ้น - AOT, CENTEL, MINT, SPA / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรขึ้น – BBL, KBANK, CRC, PTTGC / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, WHA
 
• หุ้นเด่น ก.พ. (Smart Tactics) AP, BDMS, DCC, KCE, KKP, SCB, SCGP, STGT, TWPC 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ก.พ. 2564 เวลา : 11:43:39

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:59 am