ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ กลับมาช้ากว่าที่คาดราคาน้ำมันดิบ
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 22 ก.พ. 64 เปลี่ยนแปลง
เวสต์เท็กซัส 61.49 +2.25
เบรนท์ 65.24 +2.33
ดูไบ 61.40 +0.48
ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์
เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 22 ก.พ. 64 เปลี่ยนแปลง
เบนซินออกเทน 95 69.83 +0.39
น้ำมันก๊าดและอากาศยาน 66.17 +0.36
ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 67.88 +0.24
น้ำมันเตา (3.5% S) 57.18 +0.28
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบจาก Shale Oil ในสหรัฐฯ ยังไม่สามารถกลับมาเปิดดำเนินการผลิตได้ โดยจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างต่ำราวสองสัปดาห์ในการแก้ไขปัญหา หลังเผชิญสภาวะอากาศที่หนาวเย็น และระบบไฟฟ้าดับ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่ออุปทานการผลิตน้ำมันดิบให้ปรับตัวลดลงราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน
+ จำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 12 สัปดาห์ หลังสหรัฐฯ เผชิญกับสภาวะอากาศที่หนาวเย็น โดย Baker Hughes รายงานจำนวนหลุมขุดเจาะน้ำมันดิบปรับลด 1 แท่น สู่ระดับ 305 แท่น ขณะที่หลุมขุดเจาะก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม 1 แท่น สู่ระดับ 91 แท่น ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส มีแนวโน้มปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนเม.ย. 64 เป็นต้นไป หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะแตะระดับมากกว่า 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยการประชุมของกลุ่มครั้งถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 4 มี.ค. 64
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นน้ำมันในประเทศญี่ปุ่นสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้แล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและไฟฟ้าดับ ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศไต้หวัน ท่ามกลางอุปสงค์ที่ทรงตัวจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสวิด-19 ในภูมิภาค
ข่าวเด่น