สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +5.67 จุด FED ย้ำใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1494-1511 ขานรับปธ.FED ย้ำใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานและเงินเฟ้อ และราคาน้ำมันทำไฮใหม่รอบ 13 เดือน แต่ MSCI Rebalancing กดดันหุ้นไทยช่วงท้ายยืน 1500 ไม่สำเร็จ ต่างชาติขายสุทธิถึง 7.44 พันลบ. และ Short S50 Futures 17,760 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ปรับลง หุ้นโลกปรับฐาน วิตก Bond Yield พุ่ง, การเมืองกดดัน
หุ้นโลกวันศุกร์ (26 ก.พ.) ปรับลง 2 วันติด ดัชนี DJ ร่วงมากกว่า 460 จุด (2 วันรวมปรับลงกว่า 1,020 จุด) กังวล Bond Yield ปรับขึ้น โดยแตะระดับสูงสุดที่ 1.6% ก่อนอ่อนตัวลงมาที่บริเวณ 1.4% ทำให้นลท.พากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.03$ ปิดที่ 61.50 $/บาร์เรล จากเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่า ขณะที่นลท.รอติดตามการประชุม OPEC+ เกี่ยวกับข้อตกลงการผลิตน้ำมัน มอง SET มีแนวโน้มปรับลงตามหุ้นโลกปรับฐานในช่วงที่เราหยุดยาว 3 วัน วิตก Bond Yield ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้คาดว่าจะถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ทั้งการกลับมาชุมนุมถี่ขึ้นและความไม่แน่นอนของการแก้ไขรธน. คาดจะกดดัน Fund Flows ยังเป็นลบอยู่ในระยะสั้น สำหรับ PTTEP ขึ้น XD @ 2.75 บ. วันนี้จะถ่วง SET เล็กน้อยประมาณ -1.1 จุด แนะนำติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของทั่วโลกในเดือน ก.พ. แนวรับ 1485, 1475 แนวต้าน 1505-10 อนึ่ง KISS, PSL, TQR, APURE-W2, MINT-W6 ติด Cash Balance 1 มี.ค. – 9 เม.ย. / NRF ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 19 มี.ค. / CHAYO, CHAYO-W1, LEO ไม่ติด Cash Balance แล้ว กลับมาซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก
กลยุทธ์การลงทุน : ดูอาการ SET ที่บริเวณ 1510, ยืนได้ ค่อยกลับเข้าเก็งกำไร
มอง Sentiment ตลาดจะดีขึ้น SET ควรปิดเหนือระดับ 1510 ให้ได้ก่อน มิฉะนั้น เรามองยังมีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ในระยะสั้น แนะรอประเมินจังหวะเทรดดิ้งรอบใหม่ / พอร์ตลงทุน แนะถือทนแกว่ง-รอซื้อช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PTG – (แนะนำซ้ำจากวันก่อนหน้า) ประกาศกำไร 4Q20 ที่ 672 ลบ. +88% YoY และ +32% QoQ ทำสถิติสูงสุดใหม่ และดีกว่าเราและตลาดคาดถึง 22% และ 30% ตามลำดับ หลักๆ มาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนที่ดีกว่าคาด, เราปรับประมาณการกำไรปี 2021-23F ขึ้น 12%, 10% และ 8% ตามลำดับ, ปรับเป้าพื้นฐานใหม่ขึ้นเป็น 24.5 บ. ยังแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มกำไรปีนี้จะขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง และราคาหุ้นยังเทรดที่ -0.5SD ของค่าเฉลี่ย PER ในอดีต / FTSE ประกาศทบทวนดัชนี มีผลราคาปิด 19 มี.ค. – ปรับขึ้นจาก Mid เป็น Large Cap. – DELTA / ปรับลงจาก Large เป็น Mid Cap. – BEM, BGRIM, BTS, EGCO, TRUE / เข้า Small Cap. – DOHOME / ออก Small Cap. – BEAUTY / หุ้นที่ได้ประโยชน์ศก.ฟื้นตัวและภาวะดบ.ต่ำ ชอบกลุ่มการเงิน – KKP, AEONTS และหุ้นปันผลดี (คาด Div. Yield งวดนี้ > 4%) - AP, KKP, NYT, PYLON, ROJNA, SCCC / หุ้นที่ได้บรรยากาศเชิงบวกจากแนวทาง “วัคซีนพาสปอร์ต” และสถานการณ์ระบาดทั่วโลกดีขึ้น - AOT, CENTEL, MINT, SPA / หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์ลำดับต้นๆ ของการกระจายวัคซีน – BDMS, JWD, STGT / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF, STA / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, SEAFCO, TOP, WHA
• หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) ADVANC, BDMS, EASTW, SCC, TOP, TPIPL
ข่าวเด่น