สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +10.00 จุด ขึ้นสวนหุ้นภูมิภาคจากหุ้นวัฏจักรปรับขึ้น
SET แกว่ง +/- ในกรอบ 1529-53 แม้ถูกกดดันในช่วงแรกตามหุ้นโลกปรับลงจาก Bond Yield ปรับขึ้น แต่มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มวัฎจักรในกลุ่มพลังงานและแบงก์ ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น ต่างชาติซื้อสุทธิ 2.32 พันลบ. 3 วันติด แต่พลิก Short S50 Futures 27,251 สัญญา ยุติ Long 3 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อัพ หลายปัจจัยบวกหนุน Fund Flows เริ่มไหลเข้า
หุ้นโลกวันศุกร์ (5 มี.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปิดลบน้อยกว่า 1% ถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้น กังวลเงินเฟ้อจะสูงขึ้น หลังตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ เดือน ก.พ. แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายผันผวน โดยดัชนี DJ พลิกมาปิดบวกแรงกว่า 570 จุด คาดหวังศก.สหรัฐฯ ฟื้นตัวจาก COVID-19 แล้ว ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นต่อเนื่อง +2.26 $ หรือ +3.5% ปิด 66.09 $/บาร์เรล เป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบเกือบ 2 ปี ขานรับซาอุฯ สร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยการตัดสินใจไม่เพิ่มกำลังการผลิตไปจนถึงเดือน เม.ย. มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อัพ สัปดาห์ที่แล้ว SET +3.2% Outperform หุ้นโลก +0.05% และหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น -0.26% เนื่องจากหุ้นไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้นอิงวัฎจักรศก.ทั้งกลุ่มพลังงานและกลุ่มแบงก์ ซึ่งได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และ Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ คาดหุ้นโลกจะตอบรับเชิงบวกหลังวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกม.กระตุ้นศก.แล้ว มูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะหนุนแนวโน้ม Fund Flows ไหลเข้า แนวรับ 1540, 1530 แนวต้าน 1560+/- อนึ่ง BEAUTY ติด Cash Balance 8 มี.ค. – 16 เม.ย. / DELTA และ IND ติด Cash Balance ถึง 8 มี.ค. และ 9 มี.ค. ตามลำดับ (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)
กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะเทรดดิ้ง-เก็งกำไร, พอร์ตลงทุน ถือ-ทยอยสะสม
แนะหาจังหวะเทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น คาด SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้นทดสอบไฮเดิมที่บริเวณ 1560 หากผ่านได้ ค่อยเล็งเป้าเทคนิคต่อไปที่บริเวณ 1600++ / พอร์ตลงทุน แนะถือทนแกว่ง-รอซื้อช่วงอ่อนตัว
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick CHG – ผู้บริหารคาดว่ารายได้และกำไรสุทธิปีนี้จะเติบโต 2 หลัก จาก 3 ปัจจัยขับเคลื่อนหลัก คือ 1) แนวโน้มผู้ไข้ในปท.ที่ปรับตัวดีขึ้น ผสานกับคนไข้ต่างชาติที่คาดจะทยอยกลับมาตลอดทั้งปีนี้จากรัฐบาลทยอยเปิดพรหมแดนรับต่างชาติในช่วงครึ่งปีหลัง 2) การให้บริการตรวจ COVID-19 ของแรงงานต่างด้าว และการให้บริการสถานที่กักตัวแบบทางเลือก (ASQ) และ 3) จำนวนผู้ใช้ประกันสังคมที่เพิ่มขึ้น, มีโอกาสจะได้รับการว่าจ้างบริหารโรงพยาบาลจากกระทรวงมหาดไทยเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า, เป้าพื้นฐาน 3.1 บ. / FTSE ประกาศทบทวนดัชนี มีผลราคาปิด 19 มี.ค. – ปรับขึ้นจาก Mid เป็น Large Cap. – DELTA / ปรับลงจาก Large เป็น Mid Cap. – BEM, BGRIM, BTS, EGCO, TRUE / เข้า Small Cap. – DOHOME / ออก Small Cap. – BEAUTY / หุ้นได้ประโยชน์ Bond Yield ปรับขึ้น ชอบ BBL, TMB, BLA / หุ้นที่ได้ประโยชน์ศก.ฟื้นตัวและภาวะดบ.ต่ำ ชอบกลุ่มการเงิน – KKP, AEONTS และหุ้นปันผลดี (Div. Yield งวดนี้ > 4%) - AP, KKP, NYT, PYLON, ROJNA / หุ้นที่ได้บรรยากาศเชิงบวกจากแนวทาง “วัคซีนพาสปอร์ต” และสถานการณ์ระบาดทั่วโลกดีขึ้น - AOT, BDMS, CENTEL, MINT, SPA, AMATA, WHA / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF, STA อื่นๆ CBG, ICHI, SAPPE, RS / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, BDMS, PTTGC, STEC, TOP, WHA
• หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) ADVANC, BDMS, EASTW, SCC, TOP, TPIPL
ข่าวเด่น