สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +25.95 จุด คลายกังวลระบาด, GULF เสนอซื้อ INTUCH
SET เปิดกระโดดขึ้นและไต่ระดับอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1552-74 ปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ คลายกังวลการระบาดในปท. หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มชะลอตัว และได้ปัจจัยบวกเฉพาะตัวจาก GULF เสนอซื้อหุ้น INTUCH ที่ราคา 65 บ. ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 3.16 พันลบ. แต่พลิก Long S50 Futures สูงถึง 22,369 สัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นแกว่งซิกแซกขึ้นต่อทดสอบ 1580-85 ดอลล์อ่อนค่า, งบดี
หุ้นโลกเมื่อวาน (19 เม.ย.) ส่วนใหญ่ปรับลง จากแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังจากที่ตลาดหุ้นปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ, การประชุม ECB และตัวเลข PMI ภาคการผลิตของทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดกลับ 25 เซนต์ หรือ +0.4% ปิดที่ 63.38 $/บาร์เรล จากเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า และรายงานการส่งออกน้ำมันของซาอุดีอาระเบียลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน มอง SET มีลุ้นแกว่งซิกแซกขึ้นต่อ จากสถานการณ์แพร่ระบาดในปท.ที่เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่แม้อยู่ระดับสูงกว่า 1 พันคน/วัน แต่เริ่มแผ่วลง และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่อ่อนค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ คาดจะเป็นผลดีต่อหุ้นเกี่ยวข้องราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งมีน้ำหนักในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างสูง ขณะที่การเริ่มต้นประกาศผลประกอบการหุ้นของกลุ่มการเงินโดยรวมออกมาดีกว่าตลาดคาด อาทิ TISCO (ดีกว่าตลาดคาด 4%), KKP (ตามตลาดคาด), KTC (ดีกว่าตลาด 10%) น่าจะกระตุ้นแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นงบดีในระยะสั้น อย่างไรก็ดีต้องระวังแรงขายทำกำไร โดยเฉพาะบริเวณแนวต้าน 1580-85 อาจสร้างความผันผวน ด้านแนวรับวันนี้อยู่ที่ 1570, 1565 จับตาการประชุมครม.วันนี้ อาจขยายเวลา “เราชนะ” จนถึง 30 มิ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง เลือกเก็งกำไรรายตัว, มีวินัยการลงทุน
มองตลาดระยะสั้นยังผันผวนสูงตามสถานการณ์แพร่ระบาด การเทรดดิ้งสั้นเหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง ขึ้นขาย-ลงซื้อ เลือกหุ้นงบดี มีปัจจัยบวกหนุน / พอร์ตลงทุน เน้นหาจังหวะอ่อนตัวทยอยสะสม-ไม่ไล่ราคา
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick KTC – ประกาศกำไร 1Q21 ที่ 1.63 พันลบ. ทรงตัว YoY, +23% QoQ ดีกว่าตลาดและเราคาดประมาณ 10% หลัก ๆ จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนการตั้งสำรองที่ลดลง ขณะที่พอร์ตสินเชื่อโดยรวมเติบโตเกือบ 6% YoY มาอยู่ที่ 8.6 หมื่นลบ., มองแนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องใน Q2 และ Q3 เราปรับประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้าขึ้น 4.9% และ 5.3% ตามลำดับ, ปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ขาย” เป็น “ซื้อ” ปรับเป้าพื้นฐานเป็นปีหน้าและขึ้นมาอยู่ที่ 84 บ. / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการระบาด – STGT, STA, SYNEX, COM7, HANA, KCE ขณะที่หุ้นเสียประโยชน์ คือ หุ้นท่องเที่ยวและการบริโภคในปท. / หุ้นที่คาดงบจะออกมาดี – AEONTS, BCH, CHG, DCC, EASTW, GULF, JWD, KCE, NYT, ORI, PTG, PTT, PTTGC, ROJNA, SCC, SCCC, STEC, STGT, STA, TASCO, TFG, TPIPL, TWPC / หุ้นเก็งเข้าดัชนีต่างๆ MSCI – SCGP / SET50 – เบื้องต้น IRPC, KCE, STGT, STA / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนีเป็น “Free Float Adjusted Market Cap.” - BBL, SCB, KBANK, SCC, CPALL / กระแสส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า-รัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้น – EA, NEX, GPSC, BPP / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF, STA อื่นๆ CBG, ICHI, SAPPE, RS / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ราคายังมี Upside ชอบ AEONTS, BAM, BBL, CPALL, EASTW, EGCO, JWD, RATCH, RS, SCGP, SISB, STEC, TOP
• หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) AEONTS, DCC, NYT, PTT, ROJNA, TASCO, TPIPL และ TWPC
ข่าวเด่น