ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ท่ามกลางตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงตามภาคการผลิตสหรัฐฯที่อ่อนแอลง ได้แก่ ISM Manufacturing Index ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด และดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลงบ้าง จากที่เปิดตลาดบริเวณ 91.3 จุด ลงมาที่ 91.00 จุด และเช้านี้ทรงตัวบริเวณ 91.08 จุด ด้านเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยมาที่ 31.16 บาท/ดอลลาร์ จาก 31.20 บาท/ดอลลาร์ สำหรับกองทุน SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 1.68 ตัน ถือครองทองคำ 1,018.2 ตัน ทางด้านสถานการณ์ในไทยยังคงมียอดติดเชื้อในระดับสูงกว่า 2,000 ราย ขณะที่ยอดเสียชีวิตในไทยสูงขึ้นทำ New High 31 ราย อย่างไรก็ดี สถานการณ์ฉีดวัคซีนทั่วโลกพบว่าในต่างประเทศมีความคืบหน้ามากขึ้น ขณะที่ไทยฉีดวัคซีนได้เพียงเล็กน้อย จึงทำให้โอกาสเกิด Herd Immunity ในต่างประเทศมีโอกาสเห็นในช่วงประมาณไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ แต่ของไทยคาดว่าจะฉีดได้ครบและทำให้เกิดไตรมาสที่ 4 ปี 2022 และภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะได้รับผลกระทบจากการภาคการท่องเที่ยวและ Lockdown และการท่องเที่ยว ด้านการส่งออกยังทรงตัวหรือดีขึ้นบ้างเล็กน้อย
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและมาทดสอบจุดแนวต้านทางจิตวิทยา 1,800 เหรียญ โดยทำสูงสุดที่ 1,798 เหรียญโดยประมาณ จึงทำให้ภาพรวมของการลงทุนในระยะสั้นๆ ดูจะสดใสมากยิ่งขึ้น และถ้าราคายืนเหนือ 1,785 เหรียญได้มากกว่า 2 วัน จะทำให้ภาพระยะยาวเป็นขาขึ้นตามมาด้วย วันนี้คาดราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบแนวรับ 1,770 เหรียญ และแนวต้าน 1,800 เหรียญ และแนวต้านถัดไป 1,810 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยวันนี้คาดจะเคลื่อนไหวโดยปรับตัวขึ้น 100 – 150 บาท/บาททองคำ
โดยย้ำนักลงทุนว่า ราคาจะแตกต่างกันประมาณ 2 – 5 เหรียญ ดังนั้น การวิเคราะห์หรือ Arbitrage จะต้องใช้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ลงซื้อขึ้นขายเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ
- นักลงทุนที่ถือ Long Position
ลงซื้อขึ้นขายในกรอบ ถ้าต่ำกว่า 1,770 เหรียญ แนะนำทำ Stop Loss
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
เก็งกำไรระยะสั้นๆในกรอบ เน้นบริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุล
บทวิเคราะห์ข้างต้นยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง
ข่าวเด่น