ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 10 พ.ค. ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลด หลังตลาดกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 อินเดียยังคงเพิ่มสูงขึ้น

- ราคาน้ำมันดิบถูกกดดันจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในอินเดียเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อใหม่มากกว่า 4 แสนรายต่อวัน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงกว่า 7% ในเดือนเม.ย. 64 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี  63 ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันอินเดียต้องลดกำลังการผลิตลงเหลือเพียง 90-95%

- จีนนำเข้าน้ำมันดิบเดือนเม.ย. 64 ลดลง 0.2% แตะระดับ 9.82 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับปี 63 หลังหลายโรงกลั่นจีนลดกำลังการผลิตเนื่องจากกำไรขั้นต้นอยู่ในระดับต่ำ จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น

- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุด 7 พ.ค. 64 ปรับเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 448 แท่น นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเม.ย. 63 นักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนแท่น       ขุดเจาะอาจเพิ่มสูงถึง 600 แท่นก่อนสิ้นปี 64 หลังราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง

+ ความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐฯ และยุโรปมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังสหรัฐฯ และยุโรปคลายมาตรการล็อคดาวน์ ทำให้โรงงานกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 7 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง                                                                     

เวสต์เท็กซัส 64.90 +0.19

เบรนท์ 68.28 +.019

ดูไบ 66.00 -1.26

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 7 พ.ค. 64 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  76.29 -1.73                                                             

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  71.12 -1.38                                                             

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 71.21 -1.13

น้ำมันเตา (3.5% S) 60.70 -1.42

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการตลาดกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ที่กระจายไปกว่า 17 ประเทศทั่วโลก อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น กดดันความต้องการใช้น้ำมัน

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลในภูมิภาคอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากหลายโรงกลั่นยังคงอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงประจำปี